Saturday, February 1, 2020

ไปเป็นแม่ศรีเรือนในโลกผู้ฝึกปราณ 02 หาที่ตาย

 

 
พวกนี้ใคร? ทำไมต้องมาต่อยตีกันด้วยล่ะ? แล้วพี่รองและพี่น้องคนอื่น ๆ ล่ะ? แล้วนี่มันที่ไหนเนี่ย?

หรงอี้เห็นภาพฉากทัศนวิสัยโดยรอบเปลี่ยนจากการตกแต่งภายในสไตล์โมเดิร์นกลายเป็นตึกรามยุคโบราณที่เคยเห็นแต่อยู่แค่ในทีวี พานให้รู้สึกคิดว่าหรือเพื่อนผีหลอกวิญญานหลอนของหรงฉีกำลังเล่นผีบังสร้างภาพลวงตากับเขาเต็มๆ

"เฮ้ นางนี่หลบหมัดข้าได้" ชายที่ยืนอยู่เบื้องหน้าหรงอี้หัวเราะพลางพูดพลาง: "ไม่ใช่โหมสุดพลังนมจากเต้าเหรอ?"

อีกสองคนฮาครืน

“พี่น้องอย่าเสียเวลาร่ำไรกับเขาเลย เร่งมือ คุณหนูใหญ่ให้เอาเทียบเชิญออกมาส่งให้เขา จะได้ขาดใจตาย” เด็กสาวที่ยืนอยู่ข้างหลังชายที่แหย่หรงอี้กล่าวเหยียดหยัน

"ดี ^" ฉวนเฟิงเอาเทียบเชิญสีแดงออกจากแขนเสื้อ แล้วตบป้ายเทียบเชิญแผะลงกับอุ้งมือเขาแล้วกล่าวว่า “ นี่คือเทียบที่ศิษย์พี่หญิงใหญ่ให้ข้ามาส่ง สองเดือนหลังจากนี้นางจะแต่งกับศิษย์พี่ใหญ่ของเจ้าที่โรงเรียนไท่หยวนพ่ายของพวกเรา ยินดีต้อนรับเจ้ามาและร่วมงานแต่งงานของพวกเขา แต่ไม่ต้องมาหรอกนะถ้าเจ้าท้องโตป่านนั้น ข้าเกรงเจ้าจะทนตื่นเต้นไม่ไหว คลอดลูกซะกลางงานแต่งงาน ฮ่าฮ่า "

น้องชายกับน้องสาวของเขาพลอยหัวเราะกันด้วยทั้งนั้น : "พี่น้องทุกคน เรากลับกันได้แล้ว แล้วเดี๋ยวหาหมอตำแยสักคนไปรออยู่โถงจัดงานแต่ง อีตอนเขากำลังจะคลอดจะได้แก้ผ้าตรงนั้นเลย และให้ชาวคณะไท่หยวนเราได้เห็น ผู้ชายคลอดลูกอีท่าไหน ดีเลยพวกเราจะได้ผ่านหูผ่านตากัน "

"ความคิดนี้ดี"

 


หรงอี้ไม่ได้ฟังที่พวกเขากำลังพูดเลย มัวแต่คิดว่าจะทำไงให้หลุดจากภาพหลอนนี้

"เจอกัน นางเอวดี" ฉวนเฟิงเอาเทียบเชิญโยนใส่หน้าของหรงอี้

หรงอี้คืนสติอย่างรวดเร็ว ด้านหนึ่งก็ยกนิ้วขึ้นคีบมันไว้ อย่างไรก็ตามอุ้งเท้าเหมือนว่าจะรองรับร่างเขาไม่ไหว ลื่นร่วงลงไปกองกับพื้น  ขณะที่เหวี่ยงเทียบกลับไปหาฉวนเฟิง ราวกับลูกดอก เหมือนบินไปอย่างนั้น

ฉวนเฟิงไม่คาดว่า หรงอี้ จะปาเทียบเชิญกลับมา และก็ไม่คิดว่าเขามีกำลังแข็งแกร่งเช่นนี้ เมื่อป้ายเทียบเชิญปลิวกลับมา เขาตั้งตัวรับไม่ทัน  ใบหน้าถูกมุมแหลมของป้ายเทียบเชิญ เป็นบาดแผลลึก

"อ๊าาาา -" ฉวนเฟิงตะปบเข้าที่ใบหน้าของเขาอย่างเร็ว จากนั้นก็เอามือลงอีก นิ้วของเขาเปื้อนเลือดเป็นสาย เขากับพวกและน้องก็ตกตะลึง ไม่เคยคาดคิดกันว่าหรงอี้ ผู้ที่ไม่มีแรงสู้ใครจะสามารถทำร้ายผู้คนด้วยป้ายเทียบเชิญกระดาษ: "อีสารเลว กล้าดีมาทำร้ายข้า"

 ฉวนเฟิงกระชากดาบยาวที่เอวออกมา

 



ในจังหวะนี้เอง เสียงตวาดสดใสดังก้อง ป่าวร้องว่า “ ฉวนเฟิง เจ้าอีกแล้ว บังอาจข่มเหงนายน้อยตอนเราไม่อยู่บ้าน หาที่ตายแล้ว”

ฉวนเฟิงกับสหายในชั้นเรียนและน้องสาวเห็นหรงซู่องค์รักษ์ของหรงอี้ และสีหน้านับว่าแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง หรงซู่เป็นผู้บำเพ็ญเพียรรากฐานขั้นเก้า พวกเขาทั้งห้าเป็นแค่ระดับสร้างรากฐาน แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้นับเป็นศัตรู แต่ก็รีบร้อนผละจากไป “หรงอี้ เจ้าฝากไว้ก่อน" กล่าวคำนี้ก็รีบรุดหายไป

 “นายท่าน เรียบร้อยดีหรือไม่ขอรับ ท่านโดนพวกมันรังแก หรือมันกล้าต่อยตีท่านหรือเปล่า มันมาพูดอะไรทุเรศๆอีกไหม ท่านอย่าไปฟังมันนะ พวกมันโกรธท่าน อย่าได้ทำให้พวกมันสมใจได้เชียว " หรงซู่กระหืดกระหอบมาหาหรงอี้ คุกเข่าลงและโอบอุ้มผู้คนนอนไว้  โผพุ่งขี้นสองสามคราก็มาถึงเรือนที่ด้านหลังบ้านอย่างรวดเร็ว หรงอี้ถูกวางลงบนเตียงอย่างว่องไว:" นายน้อย ท่านได้รับบาดเจ็บหรือเปล่า ไม่ได้สิ ข้าต้องหาหมอตำแยไว้สักคนให้คลายใจ นายน้อย รอข้าที่นี่ก่อน เดี๋ยวข้าจะกลับมา "

"ฮะ !?" ไม่ทันหรงอี้จะได้กล่าวอะไรสักคำ หรงอี้ก็เห็นหรงซู่พุ่งออกไปไวยังกะลูกศร

 


เชี่ย! เขาไม่ได้หูฝาดใช่ไหม จะไปหาหมอตำแยให้เขาจริงๆเหรอ

เท่าที่เขารู้ หมอตำแยนี่คือดูเรื่องคลอดลูกไม่ใช่เหรอ? ? ? ?

--------------------------

ไปเป็นแม่ศรีเรือนในโลกผู้ฝึกปราณ 02 หาที่ตาย

    พวกนี้ใคร? ทำไมต้องมาต่อยตีกันด้วยล่ะ? แล้วพี่รองและพี่น้องคนอื่น ๆ ล่ะ? แล้วนี่มันที่ไหนเนี่ย? หรงอี้เห็นภาพฉากทัศนวิสัยโดยรอบเปลี่ยนจา...