Saturday, October 5, 2019

องค์หญิงเว่ยหยาง บทที่ 14: มารดาเลี้ยงหลั่งโลหิต

องค์หญิงเว่ยหยาง

บทที่ 14: มารดาเลี้ยงหลั่งโลหิต


ต้าฟู่เหรินรั้งความสงบราบเรียบของนางคืนมาและดุด่าหลินมามาอย่างเย็นเยียบ“ ข้ามอบหมายงานให้เจ้าเป็นการเฉพาะเพราะคนอื่นจะทำให้ข้าเป็นกังวล ข้าบอกเจ้าหลายครั้งแล้วว่าให้นำเสื้อผ้าใหม่มาให้นางโดยเร็ว ไยเจ้าถึงทำไม่ได้? เว่ยหยางเป็นคุณหนูสาม หลี่เจี๋ยของพวกเรา บุตรีของมหาเสนาบดีนี้นางจะทนความเชื่องช้าของเจ้าได้อย่างไร? ไร้เหตุผลสิ้นดีที่ซานเซียวเจี่ยสวมเสื้อผ้าเก่า ๆ ออกมาข้างนอก หรือเพราะพวกเจ้าต้องการสร้างเรื่องเข้าใจผิดระหว่างเราแม่ลูก? ให้คนอื่นเห็นว่าข้าไม่ดีต่อซานเซียวเจี้ย?”

ฟังคำพูดของต้าฟูเหรินหลี่เว่ยหยางยังคงแสดงท่วงทีนับถือ แต่หัวเราะเยือกเย็นอยู่ข้างใน ต้าฟูเหรินเป็นต้าฟูเหรินย่อมมีเหตุผล นางไม่หายใจทิ้งเปล่าไปอ้อมค้อม ทุกคำที่นางพูดนั้นตรงจุด เว่ยหยางสามารถอธิบายเหตุผลแบบเดียวกันได้ แต่ถ้านางทำไปแล้วต้าฟูเหริน ก็จะเสียหน้าไม่เหลือดี ในทางตรงกันข้ามเมื่อต้าฟูเหรินพูดคำเหล่านี้นางได้ผลักดันความผิดไปให้หลินมามา

หลินมามาตอบรับได้รวดเร็วนักโดยพลันนางคุกเข่าลงกับพื้นและยอมรับความผิดพลาดของนางพลางสะอื้น หลินมามาว่าล้วนเป็นความผิดของนาง เป็นความรับผิดชอบและไร้ความสามารถของนางที่กลายเป็นเรื่องนี้ขึ้นมา แม้ว่าต้าฟูเหรินได้มอบหมายงานให้นางด้วยวาจาหากหลินมามารู้ว่าไม่ใช่ความตั้งใจที่แท้จริงของต้าฟูเหรินที่จะตัดเสื้อผ้าใหม่สำหรับเว่ยหยาง มันเป็นเพราะเหตุที่เกิดขึ้นกับหลี่จางเล่อที่ทำให้ต้าฟูเหรินเสียอารมณ์ ซึ่งเป็นเหตุว่าทำไมสองวันที่ผ่านมา ต้าฟูเหรินที่แท้แล้วรอเว่ยหยางเข้าหาเพื่อวอนให้นางอภัยให้ แต่ใครจะรู้เล่าว่าเว่ยหยางจะเสาะหาตรงไปทางเหล่าฟู่เหรินแทน?

ซานเซียวเจี่ยดูอ่อนแอและบอบบาง แต่จริงๆแล้วนางฉลาดมาก หากนางโง่กว่านี้ไปอีกนางก็จะไปหาต้าฟูเหริน  และขอความยุติธรรมและเสียหน้านางในกระบวนการนั่น อย่างไรก็ตามนางต้องรอจงใจจังหวะที่เหล่าฟู่เหรินและเหวินชื่อรั้งอยู่ทั้งคู่ แล้วชงเรื่องขึ้นมา เอาต้าฟูเหรินยัดเข้าจุดวิบาก ต้าฟูเหรินทำอะไรไม่ได้ ได้แต่กล้ำกลืนโทสะของนางลง


“ ยังไม่ได้ขอโทษซานเซียวเจี๋ย!” หลี่จางเลอตวาดแหว

ด้วยความงามล้ำของจางเล่อแม้กระทั่งวิธีที่นางพูดก็เต็มไปด้วยความสง่างามและสูงส่ง แต่เมื่อแว่วเข้าหูของเว่ยหยางด้วยเหตุผลบางอย่างแล้วสิ่งที่นางได้ยินก็คือน้ำคำของคนตีสองหน้า เว่ยหยางจนท่วมท้นด้วยความรังเกียจและความแค้น เว่ยหยางไม่เหมือนหลี่ชางซีและคนอื่น ๆ ที่กระหายความโปรดปรานของต้าฟูเหรินด้วยการคำป้อยอสรรเสริญ เพื่อที่วันหน้า พวกนางจะมั่นใจว่าจะได้แต่งงานดีๆ เว่ยหยางรู้ว่าต้าฟูเหรินนั้นยิ่งกว่าตั้งใจที่จะใช้พวกเขาเป็นหินรองเท้าให้อนาคตของหลี่เจิงเล่อ

ยังแสดงต่ออีก หลินมามาคุกเข่าต่อหน้าเว่ยหยางเพื่อขออภัย “ ซานเซียวเจี๋ย ล้วนข้าที่ผิด หนูปี้จะบอกให้พวกเขานำเสื้อผ้าใหม่มาให้ท่านเดี๋ยวนี้ ข้ายืนยันว่าท่านจะต้องชอบพวกนี้ด้วยแน่”

ดูประหวั่นพรั่นพรึงและลนลาน เว่ยหยางพลันถดถอยและมองไปที่ต้าฟู่เหริน “ ท่านแม่..นี่..นี่ จริง ๆ . .” นางพูดช้า ๆ เป็นพิเศษตะกุกตะกักราวกับว่านางร้องขอความเมตตาเพราะเห็นแก่หลินมามา

ต้าฟูเหรินตอบนิ่ม ๆ “ เว่ยหยางเจ้าไม่ต้องกังวล ปล่อยทุกอย่างให้ข้าดูแล หากเบื้องหน้าเจ้ารู้สึกไม่ยุติธรรม ข้าจะช่วยเจ้าสอนบทเรียนให้บ่าวที่ไร้ความรับผิดชอบเหล่านี้!”

เว่ยหยางโค้งคำนับอย่างรู้คุณ“ ขอบคุณท่านแม่ ทุกอย่างให้แล้วแต่ท่านแม่ก็แล้วกัน" อย่างไรก็เถอะ ด้วยเรื่องวันนี้แล้วนางแจ้งชัดแล้วว่า อย่างน้อยมองในแง่ดี จะไม่มีใครหยามนางได้โดยง่าย

เมิ่งซื่อมองเว่ยหยางครู่หนึ่งแล้วกวักมือหานางว่า “ มานี่ เด็กน้อย” เว่ยหยางเดินไปขณะที่เมิ่งซื่อโบกมือให้หลัวมามา ยิ้มแย้มว่า“ เป็นเดือนแล้วที่เจ้ามาที่นี่ ข้ามีของขวัญสำหรับเจ้า."

หลัวมาม่าเข้าใจได้ทันทีจึงเห็นนางกลับมาหลังจากนั้นสักครู่พร้อมกล่องแกะสลักใบน้อย ภายในกล่องนั้นเต็มไปด้วยเครื่องเพชรทอง หลี่ชางซีเหลือบมองดูและสังเกตเห็นเข็มกลัดราคาแพงแล้วยังงามหรูเป็นลายดอกไห่ถัง ที่นางกำลังร้องขอจากเมิ่งซื่อมานาน ก็อยู่ในกล่องนั้นด้วย กล่องนั้นแกะไว้ปราณีต และ ดอกไห่ถังนั้นแพรวพราวใสแจ๋วสดใส ดูล้ำค่านัก นางเสียเวลาไปไม่รู้เท่าไหร่ผู้เฒ่าก็เฉยชา แต่จนถึงวันนี้เหล่าฟู่เหรินได้มอบให้กับเว่ยหยาง! ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความชิงชัง แทบว่าอยากเห็นนางหลั่งโลหิตนัก

หลี่เว่ยหยางก็ประหลาดใจเช่นกัน นางไม่เคยคาดฝันว่าเหล่าฟู่เหรินจะมอบของขวัญให้กับนาง ความรู้สึกอบอุ่นไหลผ่านร่างกายของนาง เห็นได้ชัดว่านี่เป็นวิธีของเมิ่งซื่อที่บอกทุกคนว่านางมีเว่ยหยางอยู่ในใจ

เว่ยหยางเต็มไปด้วยความกตัญญูซาบซึ้งต่อเหล่าฟู่เหริน การกระทำของเหล่าฟู่เหรินไม่เพียงไม่ตำหนิ แต่ยังเต็มใจที่จะสนับสนุนนาง นางไม่ได้พูดอะไรมากอีกขณะที่นางคุกเข่าลงหมอบและกล่าวต่อเหล่าฟู่เหริน “ ขอบคุณเหล่าฟู่เหริน ความเมตตาของท่านนั้นผู้หลานย่อมจดจำไว้ในใจ”

ด้วยถ้อยคำนั้นเมิ่งซื่อรู้ว่าเว่ยหยางเข้าใจความตั้งใจของนาง อดไม่ได้ต้องแย้มยิ้มออกมา

สีหน้าของต้าฟูเหรินขึงตึงนิ่งไป

เหวินซื่อเห็นแล้วหัวเราะอยู่ในใจนาง อะไรก็ตามที่ทำให้ต้าฟูเหรินขุ่นใจและทุเรศทุรังย่อมทำให้นางมีความสุข เป็นผลให้นางเอื้อมมือขึ้นและดึงปิ่นผมของนางออกโดยเร็วพลัน ปิ่นหงส์ทองแท้ก็ถูกยัดวางไว้ในมือของ เว่ยหยาง“ มา เห็นเจ้าเป็นเด็กดีนี่ถือเอาไว้”

เว่ยหยางกระอักกระอ่วนที่จะรับเข็มกลัดและสายตามองไปทางต้าฟูเหริน นางสังเกตเห็นว่าใบหน้าของต้าฟูเหรินนั้นเปี่ยมโทสะอยู่  หากมิใช่ต่อนางแต่จ้องมองที่เหวินชื่อแทน เหวินชื่อมิได้ใส่ใจต้าฟูเหริน และหัวเราะดังๆอย่างมีความสุข

หลี่จางเลอรีบหวนคืนท่าทางสุขุมของนางโดยเร็วและไออย่างเบา ๆ ต้าฟูเหรินรับรู้ตอบกลับทันทีโดยหันไปหา เว่ยหยางและทำตัวราวกับว่าไร้เรื่องราว ด้วยเสียงที่อ่อนโยนนางเอ่ยว่า“ ลูกที่รักมานี่สิ! ข้าได้เตรียมของขวัญให้กับเจ้าล่วงหน้า ข้าก็จะให้เจ้าในตอนนี้ด้วย” ต้าฟูเหรินได้มอบของตกแต่งที่มีราคาแพงแต่ดูไร้ประโยชน์จริงๆ อย่างไรก็ตามเห็นของขวัญเหล่าฟู่เหริน และเหวินชื่อได้ให้ นางต้องทำอะไรบางอย่างเพื่อให้ทัดเทียมกัน ด้วยสายตาทุกคนจับจ้องนาง ต้าฟูเหรินได้แต่ถอดสร้อยข้อมือหยกขาวของนาง แล้วสวมสร้อยข้อมือบนข้อมือของเว่ยหยางด้วยความเจ็บใจ นางก็“ นี่ของล้ำค่าจากวังเก่า ดีนักรับไว้."

ครั้งหนึ่งนางเคยเป็นจักรพรรดินี นางรู้ว่าเจียงชื่อพูดจริงเกี่ยวกับที่มาของสร้อยข้อมือนี้ นางยิ้มแล้วพูดว่า“ ขอบคุณท่านแม่”

ต้าฟูเหรินหน้าบึ้งนิด ๆ ด้วยความโกรธที่ข่มไว้ อย่างไรก็ตามนางยังคงรักษารอยยิ้ม “ เด็กโง่ไม่จำเป็นต้องขอบคุณ!”

หลี่ฉางซีรู้สึกริษยาเป็นล้นพ้นยามเย้ยหยัน“ เว่ยหยางรวยแล้วสิ! ท่านแม่ว่าจะเก็บสร้อยข้อมือนั้นให้ต้าเจีย แต่นางมอบให้เจ้าแทน!”

เมื่อได้ยินแล้วหลี่เว่ยหยางก็มีท่าทางที่จะถอดสร้อยข้อมือออก “ ถ้าเป็นเช่นนั้น เว่ยหยางไม่อาจรับไว้ได้!”

ต้าฟูเหรินไม่ปล่อยให้เว่ยหยางคืนของขวัญเพราะนางจ้องมองอย่างน่ากลัวที่ชางซีก่อนจะกลับไปที่เว่ยหยางด้วยรอยยิ้มอันอบอุ่น ตีมือเว่ยหยาง“ เด็กโง่เจ้ายังเป็นดั่งดวงใจของแม่ นี่เจ้าเป็นอะไรไปแล้ว วางลงเลย อย่างนั้นเราก็เป็นพวกตระกูลเล็กแล้ว!”

หลี่เว่ยหยางเห็นปากนางดูผิดหวัง นางในใจย่อมมีความสุขมาก ปากกล่าวว่า “ นี่ข้าต้องขอบคุณท่านแม่แล้ว!”

ดวงตาของหลี่ชางซีเพ่งด้วยความชิงชัง หลี่จางเลอเหลือบสายตานางเบาๆไปที่กระถางธูปสีเงินฝังลวดลายดอกบัวและอัญมณี ในใจมืดครึ้ม พี่สาวน้องสาวทั้งห้า สุดท้ายก็เป็นผู้หญิง ท่านแม่เลี้ยงมาเนิ่นนานก็ไม่เข้าข้าง กำไลคู่นี่แปลว่าอะไรกัน วันนี้เหล่าฟู่เหรินได้แสดงให้เห็นว่านางอยู่ข้างเว่ยหยาง ดังนั้นต้าฟูเหรินจะลงมืออะไรกับนางนั่นได้ล่ะ มิใช่ว่านี่เปิดโอกาสให้บ้านรองเยาะเย้ยพวกเขา

ในขณะที่เว่ยหยางกำลังจะออกไป หลัวมามาก็ตามนางไปตามทางเดิน แย้มยิ้มกล่าว “ ซานเซียวเจี๋ย! เหล่าฟู่เหรินเชิญว่าท่านแต่นี้สามารถเข้ามาหาและชงชาเพื่อเหล่าฟู่เหรินได้ทุกวัน ท่านว่างหรือไม่”

หลี่เว่ยหยางตอบทันทีว่า“ หลัวมามา เจ้าจะว่าอย่างนั้นได้อย่างไร? กตัญญูต่อเหล่าฟู่เหรินเป็นสิ่งที่ลูกหลานต้องทำ”

อุปนิสัยดีงามของนางทำให้หลัวมามายิ้มน้อยๆ เว่ยหยางไม่ได้เกาะเหล่าฟูเหรินเพื่อไต่เต้า นับว่ามีเหตุผล

เมื่อหลี่เว่ยหยางกลับไปถึงเรือนนางแล้วเปิดกล่องเหล่าฟู่เหรินมอบให้กับนาง ตอนนั้นเองที่นางค้นพบช่องซ่อนเร้นด้านล่างในกล่อง นางถอดผ้าไหมสีแดงที่ปิดบังซ่อนอยู่นางเห็นเงาสีโลหะเงินของดอกไม้สิบดอก

จื่อเยียนอุทานเบาๆ แล้วพูดไม่ออก

มือของหลี่เว่ยหยางค้างตึง รางวัลข้าวของที่นางได้รับนั้นไม่สามารถนำไปใช้ได้จริง ของขวัญเหล่านั้นขายไม่ได้และเอาไปให้ต่อก็ไม่ได้ มีเพียงโลหะเงินที่สำคัญที่สุด ทุกอย่างอื่นก็ไร้ประโยชน์ในยามที่ต้องการ เหล่าฟู่เหรินรู้ว่าวันนี้นางเล่นงิ้วให้ชม แต่กระนั้นนางก็ยังเงีบบเชียบอยู่ ให้เงินกับเหวยหยาง ทำไม?

No comments:

Post a Comment

ไปเป็นแม่ศรีเรือนในโลกผู้ฝึกปราณ 02 หาที่ตาย

    พวกนี้ใคร? ทำไมต้องมาต่อยตีกันด้วยล่ะ? แล้วพี่รองและพี่น้องคนอื่น ๆ ล่ะ? แล้วนี่มันที่ไหนเนี่ย? หรงอี้เห็นภาพฉากทัศนวิสัยโดยรอบเปลี่ยนจา...