Saturday, November 9, 2019

ตอนที่ 46 ฮ่องเต้ 2


Quick Transmigration System: Male God, Come Here

ระบบย้อนชีพไวๆควิกๆ : ขั้นเทพก็มาดิเคิ๊บ

ตอนที่ 46 ฮ่องเต้ 2





สู้ๆน้องเมิงสิ  ไป่เหว่ยเหว่ยไม่อาจรอตายกับระบบความตายที่เอาแน่เอานอนไม่ได้

ผ่านไปสองชั่วโมง ไป่เหว่ยเหว่ยลุกขึ้นยืนไม่ไหว ที่จริงยังแอบชมตัวเองนะที่เธอไม่ลมใส่ซะ

"นายท่าน ... "แว่วมาจากด้านข้าง เสียงอ่อนเอื่อย

เสียงนี่ทำเอาไป่เหว่ยเหว่ยหลอน และหันหลังกลับอย่างว่อง เลยเจอกะตัวเองว่ามีคนคุกเข่าอยู่ข้างหลัง

ใครเนี่ย?

เธอค้นหาความทรงจำของระบบเหล่านั้น เจอว่าของตัวเอง หญิงชาววังของเธอเอง

เพราะเธอเป็นต้ายิงคนสุดท้าย และเธอมีบริวารตามเกณฑ์ทั่วไปนางกำนัลสองคนและขันทีสองคน

หนึ่งในสาวขาววังของเธอเรียกว่าลู่เหล่ย(หน่อเขียว) และอีกหนึ่งเรียกว่าหงชิ่ว (แขนเสื้อแดง)

หญิงชาววังคนนี้ ที่คุกเข่าแต่ให้ความรู้สึกไร้ตัวตนอยู่ข้างหลังเธอเรียกว่าหงชิ่ว เป็นคนแหยเหยาะแหยะเหมือนหนู แต่ก็ภักดีใช้ได้

หงชิ่วก็นั่งยอบกาย แต่สมรรถภาพร่างกายดีกว่าไป่เหว่ยเหว่ยมาก นางรีบวิ่งไปหาไป่เหว่ยเหว่ยทันที

"ไปกันเถอะ." ไป่เหว่ยเหว่ยไม่มีเรี่ยวแรงจะคิดอย่างอื่น เธอรู้สึกว่าเธอกำลังจะแข็งตายอยู่แล้ว

กลับไปที่ตำหนักฉิงหยวน ลู่เหล่ยได้เตรียมน้ำร้อน เตรียมน้ำขิงแล้วถูนวดไป่เหว่ยเหว่ยที่เฉียดเป็นลมอย่างรวดเร็วและใส่เสื้อผ้าใหม่ให้

เมื่อลู่เหล่ยเอาผ้าห่มมาห่อร่างเธอไว้ และยัดเตาพกใส่ในมือของเธอและป้อนน้ำขิงนึ่งให้เธอ ไป่เหว่ยเหว่ยก็เลยรอดชีวิตมาได้ในที่สุด

ลู่เหล่ยและหงชิ่ว ล้วนถูกจัดสรรไปยังตำหนักฉิงหยวนในพระราชวังหลวง เดิมทีไป่เหว่ยเหว่ยเองเป็นต้ายิงชั้นต่ำมากและไม่สามารถครอบครองเรือนอาคารได้

แต่เดิมบริวารต่ำศักดิ์ถูกจำแนกไปยังหกตำหนักตะวันออกและตะวันตก ไป่เหว่ยเหว่ยเดิมโดนกำหนดให้ไปกับบางคนยังพระราชวังหลักเมื่อตำหนักรองคนแน่นแล้ว

เลยเป็นเรื่องว่า เกิดเหตุการณ์ใหญ่ในเวลานั้น นายท่านที่อาศัยอยู่ในตำหนักฉิงหยวนถูกแขวนคอไว้กับชื่อ

ว่ากันว่าที่แห่งนี้หลอนแรงมาเนิ่นนานแล้ว และได้มีสนมแขวนคอไปสามรายแล้ว

น่าโมโหนัก ชาววังคนไหนไม่กลัวเรื่องต้องห้ามพวกนี้มั่ง

จำต้องปกปิดไว้ เพราะสตรีเข้าวังมากันอีกมากและตำหนักฉิงหยวนก็ดี จึงได้รับการจัดสรรให้คนมาอยู่อีกครั้ง

ไม่มีใครอยากอยู่นี่ ใครมั่งที่ไม่ยัดสินบน และที่สุดก็คนอย่างไป่เหว่ยเหว่ยที่สมองกลวงนี่ล่ะ ที่ได้รับมอบหมายให้มาอยู่ที่นี่

แรกเริ่มเดิมทีก็มีสตรีนางอื่นที่กำลังจะมาอยู่ด้วยกัน ผลที่พวกนางฟังคำร่ำลือคลุมเครือเข้าไป ก็ตรงออกไปตระเวณหาโดดลงบ่อน้ำ หลังจากที่ช่วยขึ้นมาได้แล้ว นางยังไปหาที่แขวนคอตัวเองไว้สองสามวัน ชีวิตนางก็เลยหายไปจริงๆ

ตั้งแต่นั้นมาตำหนักฉิงหยวนเลยทำเอาผู้คนหวาดผวาไปสามบ้านแปดบ้าน

ไป่เหว่ยเหว่ยเห็นความทรงจำเหล่านี้และรู้สึกว่าเจ้าของดั้งเดิมนั้นโคตรโง่ จนเหมือนไม่ได้โดนกดตายในบ่อ แต่เป็นดวงเหยียบขี้หมาจนตาย

แม้ว่าจะอยู่ในตำหนักผีสิง ไป่เหว่ยเหว่ยรู้สึกว่าการอยู่คนเดียวดีกว่าอยู่กับคนเยอะๆ

เธอมองไปที่นางกำนัลเบื้องหน้าและทันใดนั้นก็พบว่าขันทีทั้งสองหายไป

ไป่เหว่ยเหว่ยถามไร้อารมณ์ :“ เสี่ยวเซี่ยจื่อและเสี่ยวจั๋วซือล่ะ?”

หงชิ่วกระซิบกลับมา: "คุณชายเสี่ยวเซี่ยจื่อไปที่สำนักโรงครัวเพื่อรับอาหารเย็น เสี่ยวจั๋วซือ... เสี่ยวจั๋วซือเพิ่งจะถูกย้ายออกไป"

ไป่เหว่ยเหว่ยรับฟัง รู้อยู่แล้วว่าเสี่ยวจั๋วซือน่าจะได้เห็นเธอพึ่งไม่ไหวไร้สมอง รู้ว่าไร้อนาคตแล้วก็เลยแจ้นผละจากไป

"ไปเลย ไป ข้าไม่มีอนาคตแล้วกับเจ้านายอย่างนี้? เจ้าคนไหนอยากไป เจ้าก็ออกไปได้แล้วเดี๋ยวนี้เลย"

ได้ยินแล้วลู่เหล่ยและหงชิ่วสีหน้าแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง

"นายท่าน หนูปี้(ทาส)เป็นหมื่นหมื่นเท่าไรก็ไม่กล้าที่จะมีสองใจ ขอนายท่านได้โปรดด้วย"

เสี่ยวเซี่ยจื่อผู้เพิ่งไปรับมื้อเย็นและได้ยินคำกล่าวของไป่เหว่ยเหว่ย บัดเดี๋ยวนั้นก็วางอาหารไว้ด้านข้างและคุกเข่าตรงประตู

ไป่เหว่ยเหว่ยเหว่ยเบิกตาโตกว้างและเสริมแรงเข้าไปอีก “ นั่นล่ะดี เรื่องของเรื่องก็คือจงรักภักดี เราจะไปด้วยกันได้ดีในวันข้างหน้า”

No comments:

Post a Comment

ไปเป็นแม่ศรีเรือนในโลกผู้ฝึกปราณ 02 หาที่ตาย

    พวกนี้ใคร? ทำไมต้องมาต่อยตีกันด้วยล่ะ? แล้วพี่รองและพี่น้องคนอื่น ๆ ล่ะ? แล้วนี่มันที่ไหนเนี่ย? หรงอี้เห็นภาพฉากทัศนวิสัยโดยรอบเปลี่ยนจา...