Quick Transmigration System: Male God, Come
Here
ระบบย้อนชีพไวๆควิกๆ : ขั้นเทพก็มาดิเคิ๊บ
ตอนที่ 46
ฮ่องเต้ 2
สู้ๆน้องเมิงสิ
ไป่เหว่ยเหว่ยไม่อาจรอตายกับระบบความตายที่เอาแน่เอานอนไม่ได้
ผ่านไปสองชั่วโมง
ไป่เหว่ยเหว่ยลุกขึ้นยืนไม่ไหว ที่จริงยังแอบชมตัวเองนะที่เธอไม่ลมใส่ซะ
"นายท่าน ...
"แว่วมาจากด้านข้าง เสียงอ่อนเอื่อย
เสียงนี่ทำเอาไป่เหว่ยเหว่ยหลอน
และหันหลังกลับอย่างว่อง เลยเจอกะตัวเองว่ามีคนคุกเข่าอยู่ข้างหลัง
ใครเนี่ย?
เธอค้นหาความทรงจำของระบบเหล่านั้น
เจอว่าของตัวเอง หญิงชาววังของเธอเอง
เพราะเธอเป็นต้ายิงคนสุดท้าย และเธอมีบริวารตามเกณฑ์ทั่วไปนางกำนัลสองคนและขันทีสองคน
หนึ่งในสาวขาววังของเธอเรียกว่าลู่เหล่ย(หน่อเขียว)
และอีกหนึ่งเรียกว่าหงชิ่ว (แขนเสื้อแดง)
หญิงชาววังคนนี้
ที่คุกเข่าแต่ให้ความรู้สึกไร้ตัวตนอยู่ข้างหลังเธอเรียกว่าหงชิ่ว
เป็นคนแหยเหยาะแหยะเหมือนหนู แต่ก็ภักดีใช้ได้
หงชิ่วก็นั่งยอบกาย
แต่สมรรถภาพร่างกายดีกว่าไป่เหว่ยเหว่ยมาก นางรีบวิ่งไปหาไป่เหว่ยเหว่ยทันที
"ไปกันเถอะ."
ไป่เหว่ยเหว่ยไม่มีเรี่ยวแรงจะคิดอย่างอื่น เธอรู้สึกว่าเธอกำลังจะแข็งตายอยู่แล้ว
กลับไปที่ตำหนักฉิงหยวน
ลู่เหล่ยได้เตรียมน้ำร้อน
เตรียมน้ำขิงแล้วถูนวดไป่เหว่ยเหว่ยที่เฉียดเป็นลมอย่างรวดเร็วและใส่เสื้อผ้าใหม่ให้
เมื่อลู่เหล่ยเอาผ้าห่มมาห่อร่างเธอไว้
และยัดเตาพกใส่ในมือของเธอและป้อนน้ำขิงนึ่งให้เธอ
ไป่เหว่ยเหว่ยก็เลยรอดชีวิตมาได้ในที่สุด
ลู่เหล่ยและหงชิ่ว
ล้วนถูกจัดสรรไปยังตำหนักฉิงหยวนในพระราชวังหลวง
เดิมทีไป่เหว่ยเหว่ยเองเป็นต้ายิงชั้นต่ำมากและไม่สามารถครอบครองเรือนอาคารได้
แต่เดิมบริวารต่ำศักดิ์ถูกจำแนกไปยังหกตำหนักตะวันออกและตะวันตก
ไป่เหว่ยเหว่ยเดิมโดนกำหนดให้ไปกับบางคนยังพระราชวังหลักเมื่อตำหนักรองคนแน่นแล้ว
เลยเป็นเรื่องว่า
เกิดเหตุการณ์ใหญ่ในเวลานั้น
นายท่านที่อาศัยอยู่ในตำหนักฉิงหยวนถูกแขวนคอไว้กับชื่อ
ว่ากันว่าที่แห่งนี้หลอนแรงมาเนิ่นนานแล้ว
และได้มีสนมแขวนคอไปสามรายแล้ว
น่าโมโหนัก
ชาววังคนไหนไม่กลัวเรื่องต้องห้ามพวกนี้มั่ง
จำต้องปกปิดไว้
เพราะสตรีเข้าวังมากันอีกมากและตำหนักฉิงหยวนก็ดี
จึงได้รับการจัดสรรให้คนมาอยู่อีกครั้ง
ไม่มีใครอยากอยู่นี่ ใครมั่งที่ไม่ยัดสินบน
และที่สุดก็คนอย่างไป่เหว่ยเหว่ยที่สมองกลวงนี่ล่ะ
ที่ได้รับมอบหมายให้มาอยู่ที่นี่
แรกเริ่มเดิมทีก็มีสตรีนางอื่นที่กำลังจะมาอยู่ด้วยกัน
ผลที่พวกนางฟังคำร่ำลือคลุมเครือเข้าไป ก็ตรงออกไปตระเวณหาโดดลงบ่อน้ำ
หลังจากที่ช่วยขึ้นมาได้แล้ว นางยังไปหาที่แขวนคอตัวเองไว้สองสามวัน
ชีวิตนางก็เลยหายไปจริงๆ
ตั้งแต่นั้นมาตำหนักฉิงหยวนเลยทำเอาผู้คนหวาดผวาไปสามบ้านแปดบ้าน
ไป่เหว่ยเหว่ยเห็นความทรงจำเหล่านี้และรู้สึกว่าเจ้าของดั้งเดิมนั้นโคตรโง่
จนเหมือนไม่ได้โดนกดตายในบ่อ แต่เป็นดวงเหยียบขี้หมาจนตาย
แม้ว่าจะอยู่ในตำหนักผีสิง
ไป่เหว่ยเหว่ยรู้สึกว่าการอยู่คนเดียวดีกว่าอยู่กับคนเยอะๆ
เธอมองไปที่นางกำนัลเบื้องหน้าและทันใดนั้นก็พบว่าขันทีทั้งสองหายไป
ไป่เหว่ยเหว่ยถามไร้อารมณ์ :“
เสี่ยวเซี่ยจื่อและเสี่ยวจั๋วซือล่ะ?”
หงชิ่วกระซิบกลับมา:
"คุณชายเสี่ยวเซี่ยจื่อไปที่สำนักโรงครัวเพื่อรับอาหารเย็น เสี่ยวจั๋วซือ...
เสี่ยวจั๋วซือเพิ่งจะถูกย้ายออกไป"
ไป่เหว่ยเหว่ยรับฟัง
รู้อยู่แล้วว่าเสี่ยวจั๋วซือน่าจะได้เห็นเธอพึ่งไม่ไหวไร้สมอง
รู้ว่าไร้อนาคตแล้วก็เลยแจ้นผละจากไป
"ไปเลย ไป
ข้าไม่มีอนาคตแล้วกับเจ้านายอย่างนี้? เจ้าคนไหนอยากไป
เจ้าก็ออกไปได้แล้วเดี๋ยวนี้เลย"
ได้ยินแล้วลู่เหล่ยและหงชิ่วสีหน้าแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง
"นายท่าน
หนูปี้(ทาส)เป็นหมื่นหมื่นเท่าไรก็ไม่กล้าที่จะมีสองใจ ขอนายท่านได้โปรดด้วย"
เสี่ยวเซี่ยจื่อผู้เพิ่งไปรับมื้อเย็นและได้ยินคำกล่าวของไป่เหว่ยเหว่ย
บัดเดี๋ยวนั้นก็วางอาหารไว้ด้านข้างและคุกเข่าตรงประตู
ไป่เหว่ยเหว่ยเหว่ยเบิกตาโตกว้างและเสริมแรงเข้าไปอีก
“ นั่นล่ะดี เรื่องของเรื่องก็คือจงรักภักดี เราจะไปด้วยกันได้ดีในวันข้างหน้า”
No comments:
Post a Comment