Tuesday, November 12, 2019

ตอนที่ 59 ฮ่องเต้ 17


Quick Transmigration System: Male God, Come Here

ระบบย้อนชีพไวๆควิกๆ : ขั้นเทพก็มาดิเคิ๊บ

ตอนที่ 59 ฮ่องเต้ 17




ไป่เหว่ยเหว่ยไม่ได้รู้อะไรเลย ก็รีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที

เฉิงซื่ออวี้ทรงพาเธอออกไปจากประตู ซึ่งซูเต๋อกั๋วยืนอยู่ข้างหน้าพร้อมเสื้อผ้าที่ผัดเปลี่ยน

ซูเต๋อแสดงกิริยาคารวะสูงส่ง รวบชายแขนเสื้อ และค้อมศีรษะของเขาลงต่ำ กล่าวด้วยความนอบน้อม “ ฮ่อง...มิได้ ย่อมต้องเรียกหาเป็นนายท่าน นายหญิง โปรดตามข้ามา”

ไป่เหว่ยเหว่ยคิดว่าเฉิงซื่ออวี้จะพาเธอไปที่กำแพงวังหลวง กระโดดข้ามกำแพงแล้วเหินหาวไปสู่ภายนอก

ออกมาจริงๆคือ แค่เพียงการเดินออกจากประตูตำหนัก ถนนหนทางก็เงียบฉี่ และประตูวังหลวงก็เปิดบานเพยิบพึ่บพั่บออกหน่อยนึง และพวกเขาก็เดินออกไป

ผู้คนในวังหลวงยังฉลองเทศกาลบุปผาด้วย แต่เพียงโรงครัวหลวงก็มอบให้สตรีทุกนางเกินกว่าแค่จะให้เพียงสนมหลวง จัดวางมื้ออาหารดอกไม้ และอุทยานหลวงก็ตามโคม แขวนเอาไว้ให้พวกนางได้เล่นสนุก

ไป่เหว่ยเหว่ย ถูกพาตัวออกจากวังโดยเฉิงซื่ออวี้

ตลอดทางมีแสงไฟสว่างไสว แห่มังกร ขายข้าวขายของ โคมไฟเต็มไปทั่วทุกถนน และใบหน้าของทุกคนก็เบิกบานเปล่งปลั่งด้วยรอยยิ้มแจ่มใส

มีคนแน่นมากเกินไป เฉิงซื่ออวี้จึงเพียงทรงโอบไป่เหว่ยเหว่ยไว้ เพื่อมิให้เธอหลงทาง

ราชองครักษ์วังหลวงไม่มากมายนักล้วนติดตามอยู่ระยะไกล

มีเพียงซูเต๋อเท่านั้น

ไป่เหว่ยเหว่ยคล้ายนกที่ขังกรงเนิ่นนาน  เห็นถนนสายนี้ล้วนดูตื่นตาตื่นใจ แววตารื่นรมย์นั้นควบคุมไม่ได้จริงๆ

เธอสวมอาภรณ์เยี่ยงสตรีเมืองหลวง กระโปรงสีชมพูอ่อนพลิ้วไหวในสายลม ไร้แป้งทาบนผิวหน้าเธอ ผมมวยไว้เรียบง่าย ทัดไว้ด้วยดอกเถาฮวา แต่เธองามล้ำจนผู้คนอดไม่ได้ชะงักเท้าหยุดจ้องมองเธอ



เฉิงซื่ออวี้ทรงแวบมองเย็นเยียบ  จนผู้บังอาจจ้องมองไป่เหว่ยเหว่ย ก้าวถอยหลังห่างออก

ทอดพระเนตรเห็นหน้ากากวางขายที่อยู่ถัดจากที่ตั้งโคมไฟ ทรงเลือกหน้ากากกระต่ายและใส่ให้กับไป่เหว่ยเหว่ย

เมื่อสวมหน้ากากแล้ว ไป่เหว่ยเหว่ยกระซิบ“ จริงหรือเปล่าว่าฝ่าบาทจะทอดทิ้งคนผู้อัปลักษณ์และชวนสยอง”

เฉิงซื่ออวี้ทรงอึ้งนิ่งงัน ทรงตระหนักถึงความงดงามประหลาดเลิศล้ำของไป่เหว่ยเหว่ย ทรงไม่อนุญาตให้นางแต่งแต้มโฉมด้วยเครื่องสำอางชวนผวาของนางอีกต่อไป เช่นนั้นนางก็มีโฉมหน้าเช่นนี้มาเสมอ

สำหรับไป่เหว่ยเหว่ย เปิดเผยใบหน้าอัปลักษณ์ด้วยน้ำมือของนางเอง มันอาจจะเป็นเรื่องยากมาก

ติ๊ง ความชื่นชอบของตัวละครนำชายตอนนี้ 36 ความชื่นชอบเพิ่มขึ้น 1 ฉันไม่เคยเห็นตัวละครนำชายที่มีความชื่นชอบขี้เหนียวขั้นนี้มาก่อน

ไป่เหว่ยเหว่ยเหยียดมุมปาก เงียบเชียบแอบส่งให้ระบบไป 10,000 คำเยินยอ

เฉิงซื่ออวี้ทรงเลือกหน้ากากเสือแล้วสวมมัน “ ข้าอัปลักษณ์เท่าเจ้าแล้ว เช่นนั้นสวมหน้ากากไปด้วยกัน”

ด้วยการปลอมแปลงตัวนี้ อวดให้เห็นว่าเขาไม่เปิดเผยแม้แต่โฉมหน้า

เฉิงซื่ออวี้และไป่เหว่ยเหว่ย ต่างก็สวมหน้ากากเพื่อไปชมโคม

ซูเต๋อชำระเงินเงียบเชียบอยู่เบื้องหลัง

โคมไฟส่วนใหญ่ในเทศกาลบุปผาอยู่ในรูปของดอกไม้ โคมไฟที่กำลังบาน บุปผาบานในยามราตรี ชวนให้ผู้คนลุ่มหลงงวยงง

ทันใดนั้นไป่เหว่ยเหว่ยเห็น มีดอกไม้วางอยู่แผงและกระดาษสีแดง  เธอรีบนำซื่ออวี้ไปซื้อกระดาษเดี๋ยวนั้น

ซื้อกระดาษแล้ว เธอบอกกับเฉิงซื่ออวี้ว่า“ปรารถนาสิ่งใด ก็เขียนไปลงบนกระดาษนี้ จากนั้นวางบนโคมลอยน้ำ ให้กระดาษลอยไปหาเทพเจ้าที่อยู่ห่างไกล แล้วจะสมปรารถนา”

เฉิงซื่ออวี้ทรงดำริว่าถ้อยคำเปรียบเปรยความรักของดรุณีน้อยนางนี้ดูมิน่าเชื่อถือ แต่เมื่อมองดูดวงตาที่จริงจังของไป่เหว่ยเหว่ย ก็มีแต่ต้องเอออวยเข้าข้างนางไป



ไป่เหว่ยเหว่ยเขียนความปรารถนาของเธอแล้ววิ่งไปที่ริมแม่น้ำเพื่อวางโคมไฟลอยน้ำและวางกระดาษดอกไม้สีแดงลงไป

ชั่วขณะนั้นเฉิงซื่ออวี้ทรงสนพระทัยใคร่รู้อยู่ “ เจ้าเขียนอะไร”

ไป่เหว่ยเหว่ยไพล่มือกลับไปด้านหลังเธอ และดวงตาทั้งคู่แต้มด้วยรอยยิ้ม เธอถามอย่างมีลับลมคมนัย:“ เล่าคำขอพรงั้นหรือ อยากแลกความลับของหม่อมฉัน อย่างนั้นหม่อมฉันมีเงื่อนไข "

เฉิงซื่ออวี้ทรงรู้สึกเป็นครั้งแรก ที่ไป่เหว่ยเหว่ยช่างกล้าหาญ ดูเหมือนว่าหลังจากออกจากวังหลวงนิสัยของนางก็มีชีวิตชีวามากขึ้น

รับสั่งถามอย่างเรียบๆ “ เจ้าอยากได้อะไร”

No comments:

Post a Comment

ไปเป็นแม่ศรีเรือนในโลกผู้ฝึกปราณ 02 หาที่ตาย

    พวกนี้ใคร? ทำไมต้องมาต่อยตีกันด้วยล่ะ? แล้วพี่รองและพี่น้องคนอื่น ๆ ล่ะ? แล้วนี่มันที่ไหนเนี่ย? หรงอี้เห็นภาพฉากทัศนวิสัยโดยรอบเปลี่ยนจา...