Quick Transmigration System: Male God, Come Here
ระบบย้อนชีพไวๆควิกๆ : ขั้นเทพก็มาดิเคิ๊บ
ตอนที่ 59 ฮ่องเต้ 17
ไป่เหว่ยเหว่ยไม่ได้รู้อะไรเลย
ก็รีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที
เฉิงซื่ออวี้ทรงพาเธอออกไปจากประตู
ซึ่งซูเต๋อกั๋วยืนอยู่ข้างหน้าพร้อมเสื้อผ้าที่ผัดเปลี่ยน
ซูเต๋อแสดงกิริยาคารวะสูงส่ง รวบชายแขนเสื้อ
และค้อมศีรษะของเขาลงต่ำ กล่าวด้วยความนอบน้อม “ ฮ่อง...มิได้
ย่อมต้องเรียกหาเป็นนายท่าน นายหญิง โปรดตามข้ามา”
ไป่เหว่ยเหว่ยคิดว่าเฉิงซื่ออวี้จะพาเธอไปที่กำแพงวังหลวง
กระโดดข้ามกำแพงแล้วเหินหาวไปสู่ภายนอก
ออกมาจริงๆคือ แค่เพียงการเดินออกจากประตูตำหนัก
ถนนหนทางก็เงียบฉี่ และประตูวังหลวงก็เปิดบานเพยิบพึ่บพั่บออกหน่อยนึง
และพวกเขาก็เดินออกไป
ผู้คนในวังหลวงยังฉลองเทศกาลบุปผาด้วย
แต่เพียงโรงครัวหลวงก็มอบให้สตรีทุกนางเกินกว่าแค่จะให้เพียงสนมหลวง
จัดวางมื้ออาหารดอกไม้ และอุทยานหลวงก็ตามโคม แขวนเอาไว้ให้พวกนางได้เล่นสนุก
ไป่เหว่ยเหว่ย ถูกพาตัวออกจากวังโดยเฉิงซื่ออวี้
ตลอดทางมีแสงไฟสว่างไสว แห่มังกร ขายข้าวขายของ
โคมไฟเต็มไปทั่วทุกถนน และใบหน้าของทุกคนก็เบิกบานเปล่งปลั่งด้วยรอยยิ้มแจ่มใส
มีคนแน่นมากเกินไป
เฉิงซื่ออวี้จึงเพียงทรงโอบไป่เหว่ยเหว่ยไว้ เพื่อมิให้เธอหลงทาง
ราชองครักษ์วังหลวงไม่มากมายนักล้วนติดตามอยู่ระยะไกล
มีเพียงซูเต๋อเท่านั้น
ไป่เหว่ยเหว่ยคล้ายนกที่ขังกรงเนิ่นนาน เห็นถนนสายนี้ล้วนดูตื่นตาตื่นใจ
แววตารื่นรมย์นั้นควบคุมไม่ได้จริงๆ
เธอสวมอาภรณ์เยี่ยงสตรีเมืองหลวง
กระโปรงสีชมพูอ่อนพลิ้วไหวในสายลม ไร้แป้งทาบนผิวหน้าเธอ ผมมวยไว้เรียบง่าย
ทัดไว้ด้วยดอกเถาฮวา แต่เธองามล้ำจนผู้คนอดไม่ได้ชะงักเท้าหยุดจ้องมองเธอ
เฉิงซื่ออวี้ทรงแวบมองเย็นเยียบ จนผู้บังอาจจ้องมองไป่เหว่ยเหว่ย
ก้าวถอยหลังห่างออก
ทอดพระเนตรเห็นหน้ากากวางขายที่อยู่ถัดจากที่ตั้งโคมไฟ
ทรงเลือกหน้ากากกระต่ายและใส่ให้กับไป่เหว่ยเหว่ย
เมื่อสวมหน้ากากแล้ว ไป่เหว่ยเหว่ยกระซิบ“ จริงหรือเปล่าว่าฝ่าบาทจะทอดทิ้งคนผู้อัปลักษณ์และชวนสยอง”
เฉิงซื่ออวี้ทรงอึ้งนิ่งงัน
ทรงตระหนักถึงความงดงามประหลาดเลิศล้ำของไป่เหว่ยเหว่ย
ทรงไม่อนุญาตให้นางแต่งแต้มโฉมด้วยเครื่องสำอางชวนผวาของนางอีกต่อไป
เช่นนั้นนางก็มีโฉมหน้าเช่นนี้มาเสมอ
สำหรับไป่เหว่ยเหว่ย
เปิดเผยใบหน้าอัปลักษณ์ด้วยน้ำมือของนางเอง มันอาจจะเป็นเรื่องยากมาก
【 ติ๊ง
ความชื่นชอบของตัวละครนำชายตอนนี้ 36 ความชื่นชอบเพิ่มขึ้น 1 ฉันไม่เคยเห็นตัวละครนำชายที่มีความชื่นชอบขี้เหนียวขั้นนี้มาก่อน】
ไป่เหว่ยเหว่ยเหยียดมุมปาก
เงียบเชียบแอบส่งให้ระบบไป 10,000 คำเยินยอ
เฉิงซื่ออวี้ทรงเลือกหน้ากากเสือแล้วสวมมัน “
ข้าอัปลักษณ์เท่าเจ้าแล้ว เช่นนั้นสวมหน้ากากไปด้วยกัน”
ด้วยการปลอมแปลงตัวนี้
อวดให้เห็นว่าเขาไม่เปิดเผยแม้แต่โฉมหน้า
เฉิงซื่ออวี้และไป่เหว่ยเหว่ย
ต่างก็สวมหน้ากากเพื่อไปชมโคม
ซูเต๋อชำระเงินเงียบเชียบอยู่เบื้องหลัง
โคมไฟส่วนใหญ่ในเทศกาลบุปผาอยู่ในรูปของดอกไม้
โคมไฟที่กำลังบาน บุปผาบานในยามราตรี ชวนให้ผู้คนลุ่มหลงงวยงง
ทันใดนั้นไป่เหว่ยเหว่ยเห็น
มีดอกไม้วางอยู่แผงและกระดาษสีแดง
เธอรีบนำซื่ออวี้ไปซื้อกระดาษเดี๋ยวนั้น
ซื้อกระดาษแล้ว
เธอบอกกับเฉิงซื่ออวี้ว่า“ปรารถนาสิ่งใด ก็เขียนไปลงบนกระดาษนี้
จากนั้นวางบนโคมลอยน้ำ ให้กระดาษลอยไปหาเทพเจ้าที่อยู่ห่างไกล แล้วจะสมปรารถนา”
เฉิงซื่ออวี้ทรงดำริว่าถ้อยคำเปรียบเปรยความรักของดรุณีน้อยนางนี้ดูมิน่าเชื่อถือ
แต่เมื่อมองดูดวงตาที่จริงจังของไป่เหว่ยเหว่ย ก็มีแต่ต้องเอออวยเข้าข้างนางไป
ไป่เหว่ยเหว่ยเขียนความปรารถนาของเธอแล้ววิ่งไปที่ริมแม่น้ำเพื่อวางโคมไฟลอยน้ำและวางกระดาษดอกไม้สีแดงลงไป
ชั่วขณะนั้นเฉิงซื่ออวี้ทรงสนพระทัยใคร่รู้อยู่
“ เจ้าเขียนอะไร”
ไป่เหว่ยเหว่ยไพล่มือกลับไปด้านหลังเธอ
และดวงตาทั้งคู่แต้มด้วยรอยยิ้ม เธอถามอย่างมีลับลมคมนัย:“ เล่าคำขอพรงั้นหรือ
อยากแลกความลับของหม่อมฉัน อย่างนั้นหม่อมฉันมีเงื่อนไข "
เฉิงซื่ออวี้ทรงรู้สึกเป็นครั้งแรก
ที่ไป่เหว่ยเหว่ยช่างกล้าหาญ ดูเหมือนว่าหลังจากออกจากวังหลวงนิสัยของนางก็มีชีวิตชีวามากขึ้น
รับสั่งถามอย่างเรียบๆ “ เจ้าอยากได้อะไร”
No comments:
Post a Comment