Quick Transmigration System: Male God, Come
Here
ระบบย้อนชีพไวๆควิกๆ : ขั้นเทพก็มาดิเคิ๊บ
ตอนที่ 53
ฮ่องเต้ 9 - ฮ่องเต้ 10
ฮ่องเต้ 9
เมื่อไป่เหว่ยเหว่ยตื่นขึ้นมาที่ตำหนักฉินหย่วนเธอก็สับสนโดยสิ้นเชิง
เธอเป็นใคร
เธอกำลังจะไปไหน
เธอควรจะไปที่ไหน
เธอรู้สึกคล้ายได้รับการยกย่องจากเฉิงซืออวี้คืนหนึ่ง
แต่เมื่อเธอหวนนึกเธอก็รู้สึกเจ็บ แต่จำรายละเอียดไม่ได้
หงซิ่ว ลู่เหลยและเซี่ยวเซี่ยจื่อคุกเข่าบนพื้นดีใจที่เจ้านายของพวกเขาได้รับความโปรดปรานจากฮ่องเต้
ไป่เหว่ยเหว่ยกำลังนอนบนเตียง
พลางเคาะเรียกระบบ “ ระบบเกิดอะไรขึ้นเมื่อคืนนี้”
ระบบ:“ …”
ไป่เหว่ยเหว่ยข่มขู่:“ ถ้าคุณไม่ตอบฉัน
ฉันจะไปบ่อน้ำแล้วฆ่าตัวตาย”
ระบบยิ้มอย่างเย็นชา“ โดดเลย ไปโดดเลยไป
ฉันอดทนกับคุณมานานแล้ว คุณหยุดเรียกฉันว่าสี่สี่ได้ไหม”
ไป่เหว่ยเหว่ย:“ จะให้ฉันเรียกคุณว่าอะไร?
เด็กน้อย(เป่าเป่า)?”
ระบบสั่นด้วยแรงโมโหและตะโกนว่า“
เรียกปู่เธอสิ”
ไป่เหว่ยเหว่ยพูดด้วยน้ำเสียงโทนที่แสดงความโปรดปรานทันที
“ ปู่เธอ”
ระบบ:“ …”
ทำไมมันถึงรู้สึกว่ามันไม่ถูกต้องตลอดเลย
แม้ว่าระบบจะโต้เถียงกับไป่เหว่ยเหว่ยอย่างต่อเนื่อง
แต่ความสามารถของระบบในเรื่องสำคัญยังไม่ได้ด้อยลง
มันเปิดวิดีโอที่บันทึกไว้เมื่อคืนที่ผ่านมาและส่งไปยังไป่เหว่ยเหว่ยโดยตรง
– – – – – – – – – –
เฉิงซืออวี้ทรงดึงกระบี่ออกมา
ประกายเยียบเย็นวูบ
มันเป็นแสงที่ส่องประกายและวงพักตร์ของพระองค์ก็เผยร่องรอยความโหดเหี้ยมอำมหิตอย่างไม่ปิดบัง
เฉิงซืออวี้ทรงเคลื่อนองค์หันกลับมาและทอดพระเนตรเห็นสตรีผู้นั้นอยู่บนเตียง
มโนภาพหลอกหลอนระหว่างเสน่ห์นางต่อบุรุษเพศกับภาคแห่งความดีงาม
ทรงดำเนินอัสสาสะปัสสาสะ หายใจเข้าออกลึก ๆ
ไม่กี่ครา แล้วจึงค่อยทรงหันไปวาดกระบี่ไปรอบ ๆ ร่ายรำงามสง่า เฉียบคม
พร้อมกับหัตถ์ที่ทรงกระบี่และเริ่มใช้มันเต็มแรงกำลัง
เมื่อใดก็ตามที่กระบี่วาบแสงโต๊ะเก้าอี้ม้านั่งตู้จะถูกฟาดฟันจนวินาศสิ้น
ด้วยดวงพักตร์มืดมนและดุดัน
ทรงร่ายรำเพลงกระบี่ในอุ้งหัตถ์รุนแรงราวพลีชีพ
ความงามของภาพนี้เกือบจะกลายเป็นงานศิลปะชิ้นหนึ่ง
ภาพคลิปเห็นตรงนี้
ไป่เหว่ยเหว่ย"... "
ระบบ: "... "
ไป่เหว่ยเหว่ยเงียบไปพักหนึ่ง
แล้วก็เอ่ยอย่างซ่อนเล่ห์: "เมื่อคืนฉันเกลือกกลิ้งบนเตียงไปมาอยู่คนเดียว"
ระบบยังเงียบอยู่ครู่หนึ่ง
"ถ้าอยากจะคิดแบบนั้น ก็แล้วแต่"
ไป่เหว่ยเหว่ยยกมือขึ้นถูแก้ม
รู้สึกเหมือนศีรษะจะระเบิด เกิดอะไรขึ้นเนี่ยครั้งนี้
เฉิงซืออวี้ปล่อยให้นางสนมดื่มยาปลุกกำหนัด แล้วตัวเขาล่ะ?
ไปรำเพลงกระบี่?
ไป๋เหว่ยเหว่ยเพิ่งรู้สึกเป็นครั้งแรกว่า
โลกนี้มหัศจรรย์ ประหลาดมาก และไร้เหตุผล
ระบบแจ้งว่า ยังมีวิดีโอสว่นที่ยังไม่ได้ชม
จะชมไหมครับ
ไป๋เหว่ยเหว่ย สับสนอยู่ครู่หนึ่ง และ
ตัดสินใจอดทนความอับอาย ราวสู้กับโรคร้าย แล้วก็ตกลง
เฉิงซืออวี้ทรงร่ายรำเพลงกระบี่จบ
ก็ต้องอ้าโอษฐ์หอบอัสสาสะปัสสาสะแรง
เสโทหลั่งทั่วองค์
ด้วยสีพระพักตร์เกรี้ยวกราด
หากพระพักตร์ยังเรื่อสี
และไป่เหว่ยเหว่ยบนเตียงได้สงบเสียงลง
จากฤทธิยาที่บรรเทาลง
เฉิงซืออวี้ทรงคว้าจับกระบี่และเสด็จไปยังเตียงนั้นด้วยสีพระพักตร์เฉยชา
ทอดพระเนตรเห็นไป่เหว่ยเหว่ยทอดร่างงามอยู่กลางผืนผ้าห่ม
มีคลุมร่างไว้กึ่งหนึ่ง
ดวงหน้านั้นบิดตะแคง
บัดนี้ลมหายใจของนางไม่มีร่องรอยกลื่นอวลต่ำช้าของยานั้นแล้ว
– – – – – – – – – –
ฮ่องเต้ 10
ทรงทอดพระเนตรมองจ้องนาง
เขามิทรงทราบว่าควรดำริเยี่ยงไรเกี่ยวกับริมฝีปากดอกเถาฮวาของนาง
เมื่อมันเผยอแย้มอยู่ครึ่งหนึ่งแต้มแต่งสีสันนั้นไว้
มันงามล้ำ แต่คล้ายมิใช่สิ่งจริงแท้เลย
คล้ายมันจะหายลับไปได้ตลอดเวลา
เฉิงซืออวี้ทอดดวงเนตรยังผิวหน้าแดงเรื่อของนาง
มีทราบเขาเป็นอย่างไร ราวกับว่าถูกล่อลวง
แล้วก็ทรงโน้มองค์ลงและจุมพิตริมฝีปากนางแผ่วเบา
ลมหายใจหอมหวานของนางฟุ้งออกไป
เฉิงซืออวี้ชะงักองค์กายนิ่งขึง
ราวบุรุษหนุ่มเยาว์วัยแรกรุ่นที่มิเคยสัมผัสกลิ่นอายสตรีใดมาก่อน
ทรงมิทราบว่าจะมีวิธีใดจัดการกับความรู้สึกนี้
ชิวหานั้นล่วงเกิน
แทรกสอดผ่านริมฝีปากอันไร้ทางสู้ ล่วงล้ำเข้าแนบเนื้อปล้นชิงสัมผัสภายใน
เสียงของหัวหน้าขันทีมาจากข้างนอก“
ฝ่าพระบาท รุ่งเช้าแล้ว”
เฉิงซืออวี้ไม่อยากยับยั้งรั้งการล่วงเกิน
ที่ทำให้ต้องผละออกจากไป่เหว่ยเหว่ยเลย
ทรงหมุนองค์หันหลังกลับและไม่กล้าทอดพระเนตรนางต่อ กลิ่นอายบรรยากาศสับสนนัก
ทรงค่อยคุมระดับลมหายใจพระองค์ให้ราบเรียบ
รับสั่งอย่างเยือกเย็น. รู้แล้ว"เรียกคนรับใช้เข้ามา”
หลังจากนั้น
กระบี่ในอุ้งหัตถ์ก็กรีดเข้าปลายดรรชนีพระองค์เอง และโลหิตสีแดงหยาดลงบนผ้าห่มทำหน้าที่เป็นข้อพิสูจน์ถึงค่ำคืนแรกกับ
ไป่เหว่ยเหว่ย
เมื่อทรงสดับเสียงของขันทีที่มารับใช้
เขาเกือบดึงม่านออกจากเตียงเพื่อมาปกปิดร่างกายที่เปลือยเปล่าของไป่เหว่ยเหว่ย
กระทั่งขันทีวังเข้าประจำที่รอทุกอย่างให้แล้วเสร็จ
เฉิงซืออวี้ทอดพระเนตรจ้องมองที่เตียงแล้วเห็นไป่เหว่ยเหว่ยในชุดนอนที่ยังอยู่ในนิทราบนเตียง
หลังจากที่ทุกคนออกไปแล้ว
หัวหน้าขันทีซูเต๋อกั๋วก็เข้ามา
ดูคล้ายว่าเฉิงซืออวี้ทรงตกลงใจแล้ว
รับสั่งกับหัวหน้าขันทีผู้ที่ได้รับความไว้วางพระทัยมากที่สุดว่า“ นั่นคือนาง”
ซูเต๋อกั๋วก้มศีรษะลง
และสีหน้าเขามีแววประหลาดใจเล็กน้อย
“ ทรงแน่พระทัยแล้วหรือ?”
เฉิงซืออวี้ทรงหลับพระเนตรลงอย่างอ่อนแรง
“เพื่อใช้นาง ข้าต้องมีสาเหตุให้เป็นราชาที่เลอะเลือน
ผู้ปกครองที่ไร้สามารถเพื่อกำจัดกลุ่มพันธมิตรสี่ขั้วอำนาจ”
กลุ่มใหญ่ทั้งสี่เป็นตระกูลหลักที่ควบคุมอำนาจปกครองภายในราชอาณาจักร
มิใช่เรื่องลับที่ราชวงศ์นี้ถูกชักเชิดโดยเสนาบดี
อีกทั้งมันไม่ได้เป็นมาแค่ปีหรือสองปี แต่คล้ายอยู่มาสองสามชั่วอายุคนแล้ว
เรื่องนี้ทำให้อดีตฮ่องเต้องค์ก่อนๆ
ทรงต่อสู้กับกลุ่มตระกูลใหญ่ทั้งสี่มาหลายศตวรรษ อำนาจของฮ่องเต้ค่อย ๆ
อ่อนกำลังลงเรื่อย ๆ
เมื่อเฉิงซืออวี้ทรงมาอยู่ในตำแหน่งนี้
ทรงไม่ได้พึ่งพากำลังจากทั้งสี่ตระกูล
สตรีในวังหลังของเขา
ชายาที่ทรงอำนาจที่สุดนั้นเป็นบุตรีโทนจากกลุ่มตระกูลผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสี่ ตระกูลซู
หากไม่ใช่เพราะเนิ่นช้า
ทำให้พระนางยังไม่มีโอรสธิดา ตอนนี้พระนางก็น่าจะกลายเป็นฮองเฮาไปแล้ว
เฉิงซืออวี้ทรงทราบว่าองค์เองรับมือกับอำนาจเหล่านี้ได้ไหว
และเอาชนะได้เช่นกัน แต่คงต้องใช้เวลานานหลายสิบปี แล้วเดาได้เลยว่าแผ่นดินนี้ของพระองค์คงจะถึงแก่กาลพินาศเสียก่อน
ด้วยความขัดแย้ง
ย่อมดีกว่า
หากว่าลองหาแนวทางที่แตกต่างมาลองใช้
ยึดทรัพย์สินของตระกูลโดยตรงและประหารล้างตระกูลทันที
อย่างไรก็ตาม ชื่อเสียงของกลุ่มผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสี่ในราชอาณาจักรนี้ถือว่าไม่เลวร้าย
หากไม่มีเหตุผลที่พอจะประหารล้างตระกูล ก็จะทำให้เกิดความวุ่นวาย
อาจจะก่อให้เกิดความโกลาหลอลหม่านได้
ดังนั้นพระองค์ทรงต้องสร้างเป้าหมายที่สามารถรวมความจงเกลียดจงชังจากทุกคนเพื่อใช้เป็นแพะรับบาป
เมื่อตระกูลใหญ่ทั้งสี่ถูกสังหาร
เป้าหมายจะถูกสังหาร เวลานั้นความโกรธเคืองแค้นของชาวเมือง ก็จะเจื่อนจางลง
เป้าหมายเยี่ยงไรถึงจะมีอิทธิพลต่อฮ่องเต้
แน่นอนว่า
มันเป็นจอมเวทย์ที่แทรกซึมเข้ามาในราชอาณาจักร และทำให้ฮ่องเต้ทรงสูญสิ้นราชปณิธาน
ดวงเนตรดำมืดของเฉิงซืออวี้ทอดมองดูไป่เหว่ยเหว่ยที่หลับสนิท
พระองค์กดข่มความรู้สึกไม่พึงพอใจของความระคายเคืองที่ภายในลง
และรับสั่งอย่างหนักแน่นว่า“ก็คือนาง นางงามพอ โง่ใช้ได้ ถูกเอาเปรียบได้ ทำให้นางถูกจัดการได้ง่าย
เบี้ยหมากรุกที่ดีมาก”
หัวหน้าขันทีครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งจากนั้นกล่าวด้วยความเคารพ“
ฝ่าบาททรงพระปรีชาญานยิ่งนัก วิธีนี้ดูแล้วที่ดีที่สุด
แต่ไป่ต้ายิงนั้นไม่มีเหตุผลที่นางจะต่อต้านกลุ่มอำนาจผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสี่
นั่นคือ…”
เฉิงซืออวี้ขัดจังหวะคำพูดของเขาโดยไม่อดทน
“ งั้นหาเหตุมาหนึ่งข้อ! เราแน่ใจว่าเฉินเฟยไม่พอใจนาง
นางเมื่อก่อนเคยไม่พอใจกับประวัติตระกูลไม่ดี เกี่ยวกับสนมวังหลวง
ที่จัดฉากใส่ความผู้คนตระกูลอื่น เราต้องเตรียมพร้อมรับมือ
รอดูผลลัพธ์ที่จะเก็บเกี่ยว”
--------------------------
หมายเหตุ
xixi- ซี่ซี่ - คำว่า ระบบ ภาษาจีน
si si- สี่สี่ - คำว่า 44 ภาษาจีน
ไป่เหว่ยเหว่ย เรียกระบบเพี้ยนเป็น 44 เพื่อกวนตีน
No comments:
Post a Comment