Sunday, November 10, 2019

ตอนที่ 53 ฮ่องเต้ 9 - ฮ่องเต้ 10


Quick Transmigration System: Male God, Come Here

ระบบย้อนชีพไวๆควิกๆ : ขั้นเทพก็มาดิเคิ๊บ

ตอนที่ 53 ฮ่องเต้ 9 - ฮ่องเต้ 10

ฮ่องเต้ 9




เมื่อไป่เหว่ยเหว่ยตื่นขึ้นมาที่ตำหนักฉินหย่วนเธอก็สับสนโดยสิ้นเชิง

เธอเป็นใคร

เธอกำลังจะไปไหน

เธอควรจะไปที่ไหน

เธอรู้สึกคล้ายได้รับการยกย่องจากเฉิงซืออวี้คืนหนึ่ง แต่เมื่อเธอหวนนึกเธอก็รู้สึกเจ็บ แต่จำรายละเอียดไม่ได้

หงซิ่ว ลู่เหลยและเซี่ยวเซี่ยจื่อคุกเข่าบนพื้นดีใจที่เจ้านายของพวกเขาได้รับความโปรดปรานจากฮ่องเต้

ไป่เหว่ยเหว่ยกำลังนอนบนเตียง พลางเคาะเรียกระบบ “ ระบบเกิดอะไรขึ้นเมื่อคืนนี้”

ระบบ:“ …”

ไป่เหว่ยเหว่ยข่มขู่:“ ถ้าคุณไม่ตอบฉัน ฉันจะไปบ่อน้ำแล้วฆ่าตัวตาย”

ระบบยิ้มอย่างเย็นชา“ โดดเลย ไปโดดเลยไป ฉันอดทนกับคุณมานานแล้ว คุณหยุดเรียกฉันว่าสี่สี่ได้ไหม”

ไป่เหว่ยเหว่ย:“ จะให้ฉันเรียกคุณว่าอะไร? เด็กน้อย(เป่าเป่า)?”

ระบบสั่นด้วยแรงโมโหและตะโกนว่า“ เรียกปู่เธอสิ”

ไป่เหว่ยเหว่ยพูดด้วยน้ำเสียงโทนที่แสดงความโปรดปรานทันที “ ปู่เธอ”

ระบบ:“ …” ทำไมมันถึงรู้สึกว่ามันไม่ถูกต้องตลอดเลย

แม้ว่าระบบจะโต้เถียงกับไป่เหว่ยเหว่ยอย่างต่อเนื่อง แต่ความสามารถของระบบในเรื่องสำคัญยังไม่ได้ด้อยลง

มันเปิดวิดีโอที่บันทึกไว้เมื่อคืนที่ผ่านมาและส่งไปยังไป่เหว่ยเหว่ยโดยตรง

– – – – – – – – – –

เฉิงซืออวี้ทรงดึงกระบี่ออกมา ประกายเยียบเย็นวูบ มันเป็นแสงที่ส่องประกายและวงพักตร์ของพระองค์ก็เผยร่องรอยความโหดเหี้ยมอำมหิตอย่างไม่ปิดบัง
เฉิงซืออวี้ทรงเคลื่อนองค์หันกลับมาและทอดพระเนตรเห็นสตรีผู้นั้นอยู่บนเตียง มโนภาพหลอกหลอนระหว่างเสน่ห์นางต่อบุรุษเพศกับภาคแห่งความดีงาม
ทรงดำเนินอัสสาสะปัสสาสะ หายใจเข้าออกลึก ๆ ไม่กี่ครา แล้วจึงค่อยทรงหันไปวาดกระบี่ไปรอบ ๆ ร่ายรำงามสง่า เฉียบคม พร้อมกับหัตถ์ที่ทรงกระบี่และเริ่มใช้มันเต็มแรงกำลัง เมื่อใดก็ตามที่กระบี่วาบแสงโต๊ะเก้าอี้ม้านั่งตู้จะถูกฟาดฟันจนวินาศสิ้น
ด้วยดวงพักตร์มืดมนและดุดัน ทรงร่ายรำเพลงกระบี่ในอุ้งหัตถ์รุนแรงราวพลีชีพ ความงามของภาพนี้เกือบจะกลายเป็นงานศิลปะชิ้นหนึ่ง

ภาพคลิปเห็นตรงนี้

ไป่เหว่ยเหว่ย"... "

 ระบบ: "... "

ไป่เหว่ยเหว่ยเงียบไปพักหนึ่ง แล้วก็เอ่ยอย่างซ่อนเล่ห์: "เมื่อคืนฉันเกลือกกลิ้งบนเตียงไปมาอยู่คนเดียว"

ระบบยังเงียบอยู่ครู่หนึ่ง "ถ้าอยากจะคิดแบบนั้น ก็แล้วแต่"

ไป่เหว่ยเหว่ยยกมือขึ้นถูแก้ม รู้สึกเหมือนศีรษะจะระเบิด เกิดอะไรขึ้นเนี่ยครั้งนี้ เฉิงซืออวี้ปล่อยให้นางสนมดื่มยาปลุกกำหนัด แล้วตัวเขาล่ะ? ไปรำเพลงกระบี่?

ไป๋เหว่ยเหว่ยเพิ่งรู้สึกเป็นครั้งแรกว่า โลกนี้มหัศจรรย์ ประหลาดมาก และไร้เหตุผล

ระบบแจ้งว่า ยังมีวิดีโอสว่นที่ยังไม่ได้ชม จะชมไหมครับ
ไป๋เหว่ยเหว่ย สับสนอยู่ครู่หนึ่ง และ ตัดสินใจอดทนความอับอาย ราวสู้กับโรคร้าย แล้วก็ตกลง

เฉิงซืออวี้ทรงร่ายรำเพลงกระบี่จบ ก็ต้องอ้าโอษฐ์หอบอัสสาสะปัสสาสะแรง  เสโทหลั่งทั่วองค์
ด้วยสีพระพักตร์เกรี้ยวกราด หากพระพักตร์ยังเรื่อสี

และไป่เหว่ยเหว่ยบนเตียงได้สงบเสียงลง จากฤทธิยาที่บรรเทาลง
เฉิงซืออวี้ทรงคว้าจับกระบี่และเสด็จไปยังเตียงนั้นด้วยสีพระพักตร์เฉยชา
ทอดพระเนตรเห็นไป่เหว่ยเหว่ยทอดร่างงามอยู่กลางผืนผ้าห่ม มีคลุมร่างไว้กึ่งหนึ่ง
 ดวงหน้านั้นบิดตะแคง  บัดนี้ลมหายใจของนางไม่มีร่องรอยกลื่นอวลต่ำช้าของยานั้นแล้ว

– – – – – – – – – –




 ฮ่องเต้ 10




ทรงทอดพระเนตรมองจ้องนาง เขามิทรงทราบว่าควรดำริเยี่ยงไรเกี่ยวกับริมฝีปากดอกเถาฮวาของนาง เมื่อมันเผยอแย้มอยู่ครึ่งหนึ่งแต้มแต่งสีสันนั้นไว้

มันงามล้ำ แต่คล้ายมิใช่สิ่งจริงแท้เลย

คล้ายมันจะหายลับไปได้ตลอดเวลา

เฉิงซืออวี้ทอดดวงเนตรยังผิวหน้าแดงเรื่อของนาง มีทราบเขาเป็นอย่างไร ราวกับว่าถูกล่อลวง แล้วก็ทรงโน้มองค์ลงและจุมพิตริมฝีปากนางแผ่วเบา

ลมหายใจหอมหวานของนางฟุ้งออกไป เฉิงซืออวี้ชะงักองค์กายนิ่งขึง ราวบุรุษหนุ่มเยาว์วัยแรกรุ่นที่มิเคยสัมผัสกลิ่นอายสตรีใดมาก่อน ทรงมิทราบว่าจะมีวิธีใดจัดการกับความรู้สึกนี้

ชิวหานั้นล่วงเกิน แทรกสอดผ่านริมฝีปากอันไร้ทางสู้ ล่วงล้ำเข้าแนบเนื้อปล้นชิงสัมผัสภายใน

เสียงของหัวหน้าขันทีมาจากข้างนอก“ ฝ่าพระบาท รุ่งเช้าแล้ว”

เฉิงซืออวี้ไม่อยากยับยั้งรั้งการล่วงเกิน ที่ทำให้ต้องผละออกจากไป่เหว่ยเหว่ยเลย ทรงหมุนองค์หันหลังกลับและไม่กล้าทอดพระเนตรนางต่อ กลิ่นอายบรรยากาศสับสนนัก
ทรงค่อยคุมระดับลมหายใจพระองค์ให้ราบเรียบ รับสั่งอย่างเยือกเย็น. รู้แล้ว"เรียกคนรับใช้เข้ามา”

หลังจากนั้น กระบี่ในอุ้งหัตถ์ก็กรีดเข้าปลายดรรชนีพระองค์เอง และโลหิตสีแดงหยาดลงบนผ้าห่มทำหน้าที่เป็นข้อพิสูจน์ถึงค่ำคืนแรกกับ ไป่เหว่ยเหว่ย

เมื่อทรงสดับเสียงของขันทีที่มารับใช้ เขาเกือบดึงม่านออกจากเตียงเพื่อมาปกปิดร่างกายที่เปลือยเปล่าของไป่เหว่ยเหว่ย

กระทั่งขันทีวังเข้าประจำที่รอทุกอย่างให้แล้วเสร็จ เฉิงซืออวี้ทอดพระเนตรจ้องมองที่เตียงแล้วเห็นไป่เหว่ยเหว่ยในชุดนอนที่ยังอยู่ในนิทราบนเตียง

หลังจากที่ทุกคนออกไปแล้ว หัวหน้าขันทีซูเต๋อกั๋วก็เข้ามา

ดูคล้ายว่าเฉิงซืออวี้ทรงตกลงใจแล้ว รับสั่งกับหัวหน้าขันทีผู้ที่ได้รับความไว้วางพระทัยมากที่สุดว่า“ นั่นคือนาง”

ซูเต๋อกั๋วก้มศีรษะลง และสีหน้าเขามีแววประหลาดใจเล็กน้อย

ทรงแน่พระทัยแล้วหรือ?”

เฉิงซืออวี้ทรงหลับพระเนตรลงอย่างอ่อนแรง “เพื่อใช้นาง ข้าต้องมีสาเหตุให้เป็นราชาที่เลอะเลือน ผู้ปกครองที่ไร้สามารถเพื่อกำจัดกลุ่มพันธมิตรสี่ขั้วอำนาจ”

กลุ่มใหญ่ทั้งสี่เป็นตระกูลหลักที่ควบคุมอำนาจปกครองภายในราชอาณาจักร

มิใช่เรื่องลับที่ราชวงศ์นี้ถูกชักเชิดโดยเสนาบดี อีกทั้งมันไม่ได้เป็นมาแค่ปีหรือสองปี แต่คล้ายอยู่มาสองสามชั่วอายุคนแล้ว

เรื่องนี้ทำให้อดีตฮ่องเต้องค์ก่อนๆ ทรงต่อสู้กับกลุ่มตระกูลใหญ่ทั้งสี่มาหลายศตวรรษ อำนาจของฮ่องเต้ค่อย ๆ อ่อนกำลังลงเรื่อย ๆ

เมื่อเฉิงซืออวี้ทรงมาอยู่ในตำแหน่งนี้ ทรงไม่ได้พึ่งพากำลังจากทั้งสี่ตระกูล

สตรีในวังหลังของเขา ชายาที่ทรงอำนาจที่สุดนั้นเป็นบุตรีโทนจากกลุ่มตระกูลผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสี่ ตระกูลซู

หากไม่ใช่เพราะเนิ่นช้า ทำให้พระนางยังไม่มีโอรสธิดา ตอนนี้พระนางก็น่าจะกลายเป็นฮองเฮาไปแล้ว

เฉิงซืออวี้ทรงทราบว่าองค์เองรับมือกับอำนาจเหล่านี้ได้ไหว และเอาชนะได้เช่นกัน แต่คงต้องใช้เวลานานหลายสิบปี แล้วเดาได้เลยว่าแผ่นดินนี้ของพระองค์คงจะถึงแก่กาลพินาศเสียก่อน ด้วยความขัดแย้ง

ย่อมดีกว่า หากว่าลองหาแนวทางที่แตกต่างมาลองใช้ ยึดทรัพย์สินของตระกูลโดยตรงและประหารล้างตระกูลทันที

อย่างไรก็ตาม ชื่อเสียงของกลุ่มผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสี่ในราชอาณาจักรนี้ถือว่าไม่เลวร้าย หากไม่มีเหตุผลที่พอจะประหารล้างตระกูล ก็จะทำให้เกิดความวุ่นวาย อาจจะก่อให้เกิดความโกลาหลอลหม่านได้

ดังนั้นพระองค์ทรงต้องสร้างเป้าหมายที่สามารถรวมความจงเกลียดจงชังจากทุกคนเพื่อใช้เป็นแพะรับบาป

เมื่อตระกูลใหญ่ทั้งสี่ถูกสังหาร เป้าหมายจะถูกสังหาร เวลานั้นความโกรธเคืองแค้นของชาวเมือง ก็จะเจื่อนจางลง

เป้าหมายเยี่ยงไรถึงจะมีอิทธิพลต่อฮ่องเต้
แน่นอนว่า มันเป็นจอมเวทย์ที่แทรกซึมเข้ามาในราชอาณาจักร และทำให้ฮ่องเต้ทรงสูญสิ้นราชปณิธาน

ดวงเนตรดำมืดของเฉิงซืออวี้ทอดมองดูไป่เหว่ยเหว่ยที่หลับสนิท พระองค์กดข่มความรู้สึกไม่พึงพอใจของความระคายเคืองที่ภายในลง และรับสั่งอย่างหนักแน่นว่า“ก็คือนาง นางงามพอ โง่ใช้ได้  ถูกเอาเปรียบได้ ทำให้นางถูกจัดการได้ง่าย เบี้ยหมากรุกที่ดีมาก”

หัวหน้าขันทีครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งจากนั้นกล่าวด้วยความเคารพ“ ฝ่าบาททรงพระปรีชาญานยิ่งนัก วิธีนี้ดูแล้วที่ดีที่สุด แต่ไป่ต้ายิงนั้นไม่มีเหตุผลที่นางจะต่อต้านกลุ่มอำนาจผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสี่ นั่นคือ…”

เฉิงซืออวี้ขัดจังหวะคำพูดของเขาโดยไม่อดทน “ งั้นหาเหตุมาหนึ่งข้อ! เราแน่ใจว่าเฉินเฟยไม่พอใจนาง นางเมื่อก่อนเคยไม่พอใจกับประวัติตระกูลไม่ดี เกี่ยวกับสนมวังหลวง ที่จัดฉากใส่ความผู้คนตระกูลอื่น เราต้องเตรียมพร้อมรับมือ รอดูผลลัพธ์ที่จะเก็บเกี่ยว”

--------------------------

หมายเหตุ

xixi- ซี่ซี่ - คำว่า ระบบ ภาษาจีน
si si- สี่สี่ - คำว่า 44 ภาษาจีน
ไป่เหว่ยเหว่ย เรียกระบบเพี้ยนเป็น 44 เพื่อกวนตีน


No comments:

Post a Comment

ไปเป็นแม่ศรีเรือนในโลกผู้ฝึกปราณ 02 หาที่ตาย

    พวกนี้ใคร? ทำไมต้องมาต่อยตีกันด้วยล่ะ? แล้วพี่รองและพี่น้องคนอื่น ๆ ล่ะ? แล้วนี่มันที่ไหนเนี่ย? หรงอี้เห็นภาพฉากทัศนวิสัยโดยรอบเปลี่ยนจา...