Quick Transmigration System: Male God, Come
Here
ระบบย้อนชีพไวๆควิกๆ : ขั้นเทพก็มาดิเคิ๊บ
ตอนที่ 51
ฮ่องเต้ 7
-ขออภัย ราชาศัพท์เละเทะไปหน่อย
ไม่คุ้นชิน-
เฉิงซืออวี้ตรัสอย่างเย็นชา“ ออกมา!
มีอะไรอยู่ใต้เตียง?”
ไป่เหว่ยเหว่ยน้ำตาไหลพราก
มีใครยินดีออกไปเรอะ?
เฉิงซืออวี้ทรงจับดาบมั่นและประทับรอครู่หนึ่งก่อนที่จะสดับเสียงของไป่เหว่ยเหว่ย
จากใต้เตียงพร้อมกับเสียงสั่นๆ เธอกระซิบถามว่า“
ฝ่าบาท…ฝ่าบาทจะไม่ฟันข้าน้อยผู้สนมใช่ไหม”
เฉิงซืออวี้ขมวดพระขนง
ทรงรำลึกถึงใบหน้าของไป่เหว่ยเหว่ยตอนนี้ พระหัตถ์กุมดาบกำแน่นขึ้นด้วยกำลัง
ตรัสตอบอย่างอิดเอื้อน“
รู้แล้วว่าเจ้าเป็นคน เราจะไม่โจมตีเจ้า”
ระบบตะโกนสองครั้ง“พูดแบบนี้ยังกับว่า
ก่อนหน้าคุณไม่ได้เป็นมนุษย์”
ไป่เหว่ยเหว่ยอยากจับเฉิงซืออวี้มัดรวมกับระบบเสียจริงๆ
แล้วยัดพวกมันใส่ส้วมชักโครก กดชักน้ำลงคอห่านไปไกลๆ
เฉิงซืออวี้ประทับรอสักครู่และทอดพระเนตรเห็นร่างอรชรแน่งน้อยจากใต้เตียงค่อย
ๆ คลานออกมา
นางผู้นั้นเงยหน้าขึ้นและแอบมองเขา
สายตานางอันวาววามเคลื่อนคล้อยลงต่ำ ราวธารน้ำไหลรินและเลือนลับหาย
ยามนางหลุบเปลือกตาลง
ไป่เหว่ยเหว่ย อยากจะคำนับเขา
แต่เฉิงซืออวี้ทอดดวงเนตรมองหน้าเธอ ชัดเจนว่าไม่ทรงอนุญาต แล้วทรงเอาดาบกลับมา
“ เข้ามาคนหนึ่ง
ช่วยไป่ต้ายิงล้างหน้า” เขามีพระบัญขา ไป่เหว่ยเหว่ยรู้สึกอับอาย
นางกำนัลสูงวัยที่เข้ามาแสดงความเป็นอริชัดตลอดสีหน้านาง เธอล้างที่แต่งหน้าออกออกด้วยน้ำและยังเปลี่ยนเสื้อผ้าของเธอ
แต่งตัวของเธอในชุดผ้าป่านหลวมๆและงามตา ผ้านั้นประดับด้วยดอกเถาฮวาบานปักด้วยมือ
เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้นทุกคนถอยกลับออกไปอีกครั้ง
ประทับนั่งอยู่ด้านข้าง
เฉิงซืออวี้ทรงเงยพระพักตร์ขึ้นมาอย่างพระทัยลอย ด้วยรูปลักษณ์อันยวนตา
อยู่ภายใต้แสงโคม ดรุณีผู้นั่งบนเตียงนั้นมีมือเรียวขาวราวหิมะ
แนบวางอยู่บนหัวเข่าของนาง
ใบหน้านางเอนไปทางด้านข้าง
พร้อมแก้มแดงเรื่อ และผิวนั้นขาวและเงาราวหยก ยังมิต้องแต่งแต้มแต่งหน้าให้สยดสยอง
วงหน้าเลอโฉมและชวนตะลึงลานก็สามารถทำให้ผู้คนพิศวงอย่างง่ายดายเสียแล้ว
【
ติ๊ง ความนิยมของนักแสดงนำชายเพิ่มขึ้นถึง 10 】
【
ติ๊ง ความนิยมของนักแสดงนำชายเพิ่มขึ้นเป็น 15 】
ด้วยการเพิ่มคะแนนความนิยมมากขึ้น
ไป่เหว่ยเหว่ย ก็อดไม่ได้ที่จะบ่นกับระบบว่า“
ฉันไม่คิดเลยว่าเฉิงซืออวี้เป็นคนเหลาะแหละ”
เมื่อทอดดวงเนตรเห็นหน้านาง
ความโปรดปรานของเขากำลังทวีขึ้น
ระบบกำลังว่าจะปลอบใจสักคำสองคำ
แต่แล้วมันก็ได้ยินไป่เหว่ยเหว่ย พูดต่อ“
แต่ฉันก็ชอบความขี้เล่นของเขานะ ระบบคุณบอกว่าถ้าฉันจับใบหน้าเขา
ความชื่นชอบของเขาจะเพิ่มขึ้นเป็น 100 ใช่ไหม”
ระบบรอฆ่าไป่เหว่ยเหว่ยแทบไม่ไหวแล้ว “
รีบฝันเอาซะไป๊! ไม่ต้องมาห่วงแชทกับฉันเลย ป๋ากำลังยุ่ง” หลังจากระบบกล่าวเสร็จ
มันก็บล็อคไป่เหว่ยเหว่ยทันที
นี่จะต้องเป็นระบบแรกในประวัติศาสตร์ที่บล็อกโฮสต์ตัวเอง
โดยไม่มีใครบังคับ
เมื่อรู้ว่าระบบหนีเพราะปากเธอ
ไป่เหว่ยเหว่ยก็รู้สึกหดหู่เล็กน้อย เหงาใจไร้ระบบให้รังแก
เธอเงยหน้าขึ้นแอบแวบมองเฉิงซืออวี้
แต่กลับลงท้าย
จบลงด้วยการสบกับดวงเนตรคู่หนึ่งที่ดำราวห้วงลึกทอดพระเนตรจับจ้องมายังเธอ
ดวงเนตรนี้แม้จะเย็นชา
กระทั่งมองสิ่งสวยงามก็จะไม่อาจทำให้มันอบอุ่น
หากไป่เหว่ยเหว่ยไล้เลียริมฝีปากของเธอ
และมองประหม่าไปยังเท้าตัวเอง
ฉับพลันนั้นเฉิงซืออวี้ตรัสถามว่า“
เจ้ากลัวเราหรือ”
ไป่เหว่ยเหว่ยสะท้านน้อยๆ
เพียงตอบอย่างระมัดระวัง“ บ่าวผู้นี้ไม่กลัว”
เฉิงซืออวี้ทอดดวงเนตรเห็นเท้าเปลือยเปล่าของนางภายใต้ชุดผ้าป่าน
เห็นแนวครึ่งของเรียวน่องนวลอ่อนละเอียด นิ้วเท้าผุดผาดนั้นปลายงอช้อนขึ้นน้อยๆ
ทรงรู้สึกว่าลำพระศอองค์เองแห้งเล็กน้อย
และอดไม่ได้ที่จะเสวยสุธารสชาอีกสองสามอึก
“ ทำไมเจ้าถึงชอบแต่งกาย…ประหลาดนัก
”
ไป่เหว่ยเหว่ยดูเหมือนจะคิดอะไรสักอย่าง
เอื้อมมือมาปิดใบหน้าตัวเอง “ ฝ่าบาททรงโปรด อย่าทอดพระเนตรมองหน้านางสนมผู้นี้
มันน่าชัง”
เฉิงซืออวี้ทอดพระเนตรมองดูนาง
วงหน้าของนางเพียงพอจะล่มเมืองล่มแว่นแคว้นได้
ทรงรู้สึกได้ว่าข้างขมับเริ่มเต้นตุบ
หากนี่ถือว่าน่าขัง
เยี่ยงนั้นก็คงหาคนงามแม้สักคนในโลกไม่ได้แล้ว
No comments:
Post a Comment