Tuesday, November 12, 2019

ตอนที่ 66 ฮ่องเต้ 24


Quick Transmigration System: Male God, Come Here

ระบบย้อนชีพไวๆควิกๆ : ขั้นเทพก็มาดิเคิ๊บ

ตอนที่ 66 ฮ่องเต้ 24




สนมนี้เรียกแบบนั้นก็เป็นวิธีที่จะเรียกขานตัวเองว่าเป็นแค่คนรับใช้ของฮ่องเต้

ไป่เหว่ยเหว่ยได้ยินประโยคนั้นและเธออดที่จะหัวเราะเยาะตัวเองไม่ได้ แต่สายตาเธอไม่ได้ยิ้มด้วย

จากนั้นเธอก็ปลดดอกเจือฮวาแดงออกจากศีรษะเธอแล้ววางมันไว้บนโต๊ะถัดไป “ดอกไม้นี้มอบให้จากทาสรับใช้ผู้นี้แด่องค์ฮ่องเต้ ทาสรับใช้ผู้นี้โสโครกแปดเปื้อน หม่อมฉันไม่คู่ควรกับดอกไม้นี้”

ขณะที่เฉิงซื่ออวี้ทรงสดับฟังดวงหทัยพระองค์สะท้านสะเทือน และเผลอพลั้งย่างพระบาทถอยห่างไปด้านหลัง

เรียบร้อยแล้วไป่เหว่ยเหว่ยจึงจากไป

เมื่อเธอไปถึงห้องสรงน้ำ เธอบอกนางกำนัลน้อยที่อยู่รอบๆตัวเธอด้วยน้ำเสียงเย็นชาและไม่แยแส “ถอยออกไป”

เมื่อผู้คนทั้งหมดออกไปแล้ว สีหน้าสิ้นหวังของไป่เหว่ยเหว่ยก็มลายไป เธอมองไปรอบ ๆ “ไม่เหลือสักคน”

ระบบ: “ไม่มีคน ถ้าเธอไม่ใช่คนน่ะนะ”

ไป่เหว่ยเหว่ยไม่สนใจระบบ เธอถอดเสื้อผ้าทันที แล้วเหยียดนิ้วมือนวดแขนและไหล่ของเธอและอีกสองสามครั้งบนหน้าอกของเธอ ...

ไม่ถึงนาที อวัยวะที่โดนนวดเฟ้นก็แดง และบางตำแหน่งก็ขูดจนมีรอยเลือด ตรงที่โดนเล็บ

สีแดง สีม่วงและสีเขียว ดูแล้วน่าสังเวช

เอาเหอะ น่าสังเวชได้สาสมแล้ว

ระบบจ้องมองการกระทำของโฮสต์และหมดคำจะพูด

ยังจ้องดูไป่เหว่ยเหว่ยรวบรวมสติอารมณ์ของเธอไว้ แล้วเธอก็กระโดดลงไปในสระด้วยร่างเปลือยเปล่า และกอดตัวเองไว้



เธอคิดถึงซีรีย์เกาหลีสุดรันทดที่เธอดูเมื่อก่อน เมื่อนางร้ายจะรังแกเด็ก หญิงสาวต้องเป็นลูคีเมีย(มะเร็งเม็ดเลือดขา) และตัวละครชายต้องความจำเสื่อม

อารมณ์เธอกำลังปั่นป่วน และสีหน้าของเธอก็หมดหวัง และปวดร้าวเมื่อเธอหลั่งน้ำตา

อาการกลั้นสะอื้น และเสียงคร่ำครวญครางทำให้ผู้คนรู้สึกทานทนมิได้

เฉิงซื่ออวี้ทรงประทับอยู่ข้างนอก สดับยินนางพยายามมิร่ำไห้ และรู้สึกคล้ายดวงหทัยของพระองค์ถูกเชือดเฉือน

ทรงรุดเข้ามาทันที และทอดพระเนตรเห็นไป่เหว่ยเหว่ยประจันหน้ากับพระองค์ กายของนางมีร่องรอยจากคนผู้นั้น

รู้ก็เรื่องหนึ่ง แต่เห็นกับตานั่นก็ต่างกันอย่างสิ้นเชิง

ทรงดำริว่าองค์เองนั้นสามารถเสียสละทุกอย่างเพื่อราชอาณาจักรนี้

แต่สตรีผู้ไม่สำคัญผู้นี้

แต่สตรีผู้ไม่สำคัญผู้นี้…คือสตรีที่พระองค์ชื่นชอบ

การร่ำไห้ของนางปวดร้าวยิ่ง แม้ว่านางจะต้องทนทุกข์ทรมานจากความอัปยศอดสู ที่นางก็ไม่อาจต้านทานได้ สิ่งเดียวที่นางทำได้คือหลบเร้นและร่ำไห้ไร้ทางสู้

เป็นครั้งแรกที่เฉิงซื่ออวี้ทรงตระหนักว่าหัวใจคืออะไร และใจสลายคือเช่นไร

ทรงเอื้อมออกไปอย่างช้า ๆ ด้วยต้องการสัมผัสนาง โอบนางไว้ในอ้อมพระพาหาและปกป้องนาง

แต่ครั้นพระกรเอื้อมมาถึงครึ่งทาง ท่าทีของพระองค์ลดราลง ทรงมีคุณสมบัติเพียงพองั้นหรือ?

พระองค์มิได้ให้ความคุ้มครอง ให้เพียงความบาดเจ็บ

ไป่เหว่ยเหว่ย ราวกับจะรู้ว่ามีใครบางคนอยู่ข้างหลังนาง นางหันหลังกลับอย่างหวาดผวา นางไม่อาจเห็นคนที่ซ่อนตัวอยู่ข้างๆได้ชัด “ เป็นผู้ใด? อย่าเข้ามา”

ราวนกน้อยตื่นตกใจ

สุรเสียงของเฉิงซื่ออวี้แหบพร่า “ข้าเอง”

ไป่เหว่ยเหว่ยเห็นชัดกว่าเดิมว่าใครคือบุคคลที่กำลังเข้ามาใกล้ เธอพลันเอื้อมมือไปปาดน้ำตา แต่ไม่ว่าเธอจะเช็ดเท่าไรก็ไม่ชัดเจน เธอจึงทำได้เพียงปิดใบหน้าด้วยมือเธอ ขณะที่เธอกระอักกระไอ “ บ่า..บ่าวผู้นี้ช่างไร้มารยาท”

เฉิงซื่ออวี้ทรงทราบว่านางกลัว สตรีใดเล่าที่ประสบเรื่องเหล่านี้มาแล้วไม่กลัว



ทรงเปลื้องฉลองพระองค์ออก แล้วย่างพระบาทลงไปในน้ำ เอื้อมออกไป แล้วกอดเรือนกายสะท้านของนางอย่างช้าๆ

ไม่ต้องกลัว ไม่ต้องกลัวแล้ว  ไม่มีใดทำร้ายเจ้าอีกแล้ว”

สุรเสียงของเฉิงซื่ออวี้แผ่วนุ่ม “ ครั้งข้ายังเยาว์ ทุกครั้งที่ข้าบาดเจ็บ ท่านแม่สนมของข้าก็จะเป่าให้ แล้วมันก็หาย ไม่เจ็บอีกต่อไป”

ทรงถูกทุบตีและรังแก ครั้งยังอ่อนชันษา แต่ตราบใดที่ท่านแม่ของพระองค์อยู่ที่นั่น

ทรงไม่รู้สึกเจ็บปวดเลย

เพราะทรงตระหนักแล้วว่ามีคนที่รักพระองค์อยู่

No comments:

Post a Comment

ไปเป็นแม่ศรีเรือนในโลกผู้ฝึกปราณ 02 หาที่ตาย

    พวกนี้ใคร? ทำไมต้องมาต่อยตีกันด้วยล่ะ? แล้วพี่รองและพี่น้องคนอื่น ๆ ล่ะ? แล้วนี่มันที่ไหนเนี่ย? หรงอี้เห็นภาพฉากทัศนวิสัยโดยรอบเปลี่ยนจา...