Quick Transmigration System: Male God, Come Here
ระบบย้อนชีพไวๆควิกๆ : ขั้นเทพก็มาดิเคิ๊บ
ตอนที่ 65 ฮ่องเต้ 23
ยังกล้าเอ่ยว่าไม่กลัว
สนมกับข้านี้อวดอ้างตัวได้ว่าทำให้เรื่องราววุ่นวายแล้ว
เฉิงซื่ออวี้ทรงนึกถึงภาพที่พระองค์ทอดพระเนตรเห็นในตอนนี้
รู้ว่าถ้าเสด็จมาช้าเพียงนิด สัตว์ร้ายคงบดขยี้นางลงแล้ว
ทรงโอบกระชับกายนางแน่นหนักขึ้น
ดวงเนตรของพระองค์มืดมน และพระพิโรธนั้นก็หาใดเปรียบ
【 ติ๊ง
ผู้ชายคนนี้ ดีจริงๆ 】
ลงไปข้างล่าง ไป่เหว่ยเหว่ยมองกวาด
และเห็นทั้งเหลาแหลกราน
เฉินเฉิงเฉิงอยู่ตรงหน้าพระองค์
เขายังไม่รู้ว่าบุตรชายของเขาถูกสังหารแล้ว
ดังนั้นหน้าของเขาจึงไม่แสดงสีหน้าชัดเจนนัก
“ กระหม่อมไม่ทราบว่าฮ่องเต้เสด็จมา
ผู้ช่วยเสนาบดีนับว่าเหลวไหล และโทษทัณฑ์นี้สมควรแก่ความตาย”
เฉิงซื่ออวี้ทอดพระเนตรยังเขาอย่างเย็นชา
ในทันใดสีพระพักตร์ก็บึ้งตึง “ เจ้ามีความผิด
เจ้ารู้ไหมว่าบุตรชายที่ดีของเจ้าทำอะไร?”
เฉินเฉิงเฉิงเดาแล้ว
ท้ายที่สุดองค์รักษ์ล่าสังหารทั้งมวลรีบรุดมา เหตุด้วยนางสนมเจาหยีหลงออกจากวัง
ว่ากันว่าเป็นคนโง่เขลาใช้การอะไรไม่ได้
ว่ากันว่า
มีเจาหยีที่เพิ่งได้เป็นคนโปรดแห่งวังหลวงในชั่วข้ามคืน
ถ้านางงามขนาดนั้นมันก็ดูเหมือนจะเป็นสตรีนั้นที่อยู่ชั้นบนโดยบุตรชายของเขา
ไม่น่าแปลกใจที่เฉิงซื่ออวี้ที่เพิ่งเสด็จมาพร้อมกับกระบี่ของพระองค์
สังหารทาสไปสองรายในวินาทีที่ทรงเปิดประตู
เพื่อบรรเทาโทสะของอิสตรีผู้นี้
ดูเหมือนว่าสมองของฮ่องเต้อาจไม่ใคร่ดีเสียแล้ว
เฉินเฉิงเฉิงพูดอย่างไม่กลัว
“สุนัขตัวนี้รบกวนฮ่องเต้นี่เป็นความผิดของสุนัขนี้
และผู้ช่วยเสนาบดีผู้นี้จะถูกกวดวินัยอย่างเคร่งครัด”
เฉิงซื่ออวี้ทรงเยาะเย้ย "มีวินัย? นี่เจ้า สัตว์ร้ายนั้นเพิ่งได้เจอกับยมบาล
เจ้าอยากได้วินัยก็ไปจัดการวินัยเองเถอะ ”
เฉินเฉิงเฉิงได้ยินแล้ว หัวใจเขาปวดร้าว
บุตรชายของเขาเสียชีวิตแล้ว
“ ฝ่าพระบาท
พระองค์จะสังหารบุตรของเสนาบดีผู้ซื่อสัตย์ของราชวงศ์นี้เพื่อเจาหยีแห่งย่านเขตนี้รึ
หากทรงเรียนรู้เรื่องฮ่องเต้องค์แรกพระองค์จะไม่ฝึกตนจนเป็นคนยะโสเยี่ยงนี้ "
เฉิงซื่ออวี้ทรงอุ้มไป่เหว่ยเหว่ย
และรู้สึกว่านางได้ยินประโยคนี้
เมื่อเขารับสั่งร่างกายของนางเกร็งแข็งขึงแข็งทื่อราวกับว่านางกลัว
ในพระทัยของพระองค์ เส้นประสาทรับความรู้สึกของพระองค์แหลกสลาย
ณ บัดนี้ ทรงแทบรำลึกไม่ได้ถึงพระประสงค์
การประหัตประหารส่งผลให้ทรงรุนแรงและดุร้าย
“ เจ้ากล่าวว่า นางเป็นเพียงเจาหยี
อีกทั้งความรักของข้าต่อนางเจาหยีทำให้เสื่อมพระเกียรติ
นับเป็นเจาหยีผิด นับแต่วันนี้
อวยยศให้ไป่เจาหยีเป็นกุ้ยเฟย ชายาแห่งองค์ฮ่องเต้
ตำแหน่งขององค์ฮองเฮานั้นยังว่างอยู่
ตราหงส์นั้นให้มอบกุ้ยเฟยทรงรักษาเอาไว้เป็นการชั่วคราว
วังหลังนั้นล้วนให้เป็นพระนางที่ตัดสินพระทัย
บุตรชายแห่งตระกูลเฉิน กระทำเรื่องผิดต่อผู้สูงศักดิ์
ฉะนั้นแล้วบุตรชายของตระกูลเฉินจึงถูกตัดศีรษะ และให้ประหาร3ชั่วคน
ดวงเนตรของเฉิงซื่ออวี้นั้นเต็มไปด้วยพระพิโรธ
สีพระพักตร์มืดทะมึนเยียบเย็น และทรงรับสั่งเนิบช้าเป็นคำสุดท้าย “
ต้านข้ายังพออภัย
ต้านชายาข้าตายไร้ที่กลบฝัง”
ใบหน้าของเฉินเฉิงเฉิงซีดลง เขาตกใจและโกรธแค้น“
นี่มิสอดคล้องกฎหมาย ฝ่าบาท ท่านล้างผลาญข้า สวรรค์ย่อมให้ท่านทุกข์ทน”
เฉิงซื่ออวี้ทรงเยาะหยัน “
ถ้ามีคำสาปจากสิ่งสักดิ์สิทธิ ก็มาเจอกับข้าเสียเลย มา
ข้าจะตัดศีรษะทั้งหมดของพวกเจ้า และแขวนซากศพของเจ้าบนกำแพง
แล้วโยนทิ้งเสียนอกกำแพง”
หลังจากนั้น
เฉิงซื่ออวี้ทรงหันพระองค์เสด็จจากไป ทรงมิต้องการให้ไป่เหว่ยเหว่ยได้เห็นฉากนองเลือดมากไปกว่านี้
เทศกาลบุปผาวันนี้เป็นวันที่หลั่งเลือดเป็นสายธาร
– – – – – – – – – –
เฉิงซื่ออวี้ทรงโอบอุ้มไป่เหว่ยเหว่ยตลอดทางกลับไปยังวังหลวง
ตลอดทางไป่เหว่ยเหว่ยเงียบไม่ร้องไห้หรือมีเสียงดังดวงตาของเธอว่างเปล่าและสับสน
เฉิงซื่ออวี้ทรงไม่กล้าถามนางว่านางถูกหยามหมิ่นเพียงไร
ทรงรู้สึกผิดขลาดเขลา
ทรงมิคาดคิดเลยว่าอารมณ์ที่อ่อนแอสามารถปรากฏในองค์เองได้
หลังจากกลับมาที่ตำหนักประโยคแรกของ
ไป่เหว่ยเหว่ย คือ“ ฝ่าบาท บ่าวผู้สนมนี้ ใคร่อยากอาบน้ำ”
เฉิงซื่ออวี้ทรงรู้สึกว่าดวงหทัยของพระองค์สั่นระทึกแรง
ทรงเพียงได้แต่วางนางลงและรับสั่งว่า
“เจ้าคือสนมของฮ่องเต้องค์นี้เจ้าไม่ต้องเรียกตัวเองว่าบ่าว'”
No comments:
Post a Comment