Tuesday, November 12, 2019

ตอนที่ 60 ฮ่องเต้ 18


Quick Transmigration System: Male God, Come Here

ระบบย้อนชีพไวๆควิกๆ : ขั้นเทพก็มาดิเคิ๊บ

ตอนที่ 60 ฮ่องเต้ 18




โลกนี้ มีอะไรที่พระองค์จ่ายให้ได้บ้างหรือ

ไป่เหว่ยเหว่ยพลันมองไปรอบ ๆ พบว่าไม่มีใครอยู่ใกล้ ๆ ขยับไปสองสามก้าวนางก็รีบเข้าไปอยู่เบื้องหน้าเฉิงซื่ออวี้และเอื้อมมือปลดหน้ากากของพระองค์ออกมา เผยโฉมพระพักตร์ทรงโฉมงามสง่าเฉยชาด้านใน  จากนั้นเธอก็ดึงหน้ากากของตัวเองออก เขย่งปลายนิ้วเท้าแล้วจุมพิตบางเบาเข้าที่ปรางของพระองค์

เฉิงซื่ออวี้ทรงรับมือไม่ทัน จึงถอยพระบาทกลับไปก้าวสองก้าว

ไป่เหว่ยเหว่ยสวมหน้ากากของเธอแล้ว น้ำเสียงมีรอยยิ้มว่า“ ตระกูลไหนหนอที่หน่อเนื้อชายงามคล้ายหยก ปล่อยภริยาผู้น้อยพลิกกายกระสับกระส่ายไปมา ยามตื่นยามนิทราได้แต่พร่ำวอน”

ความรักในคำกล่าวนี้มีความจริงจังและจริงใจ

เฉิงซื่ออวี้ทรงรู้สึกเพียงว่าดวงหทัยของพระองค์เต้นระส่ำ อารมณ์เร่าร้อนที่เย็นชาหลังผละจากสมรภูมิก็กลับผุดพราย

ทรงใคร่อยากตรัสบางคำ แต่ชิวหาแห้งผาก ล้วนติดอยู่ที่พระศอ เข็ดขื่นและทานทนไม่ไหว

ไป่เหว่ยเหว่ยหันมามองที่แสงไฟลอยอยู่บนโคม และลมก็พัดผ่าน พาให้อาภรณ์ของเธอปลิวขึ้น เสียงของเธอหวานและจริงจัง“ สนมผู้นี้ปรารถนาสามอย่างในชีวิตนาง หนึ่ง ปรารถนาให้อาณาจักรนี้มั่นคงรุ่งเรืองชั่วกาล ไร้อนารยชนรุกล้ำ และตระกูลทั้งสี่ร่วมเฉลิมฉลอง ใต้ฝ่าพระบาทปลอดภัยไร้กังวล ทุกความสำเร็จที่เป็นไปได้และอายุยืนในชีวิตที่ยืนยาว ทุกสิ่งสำเร็จดังพระประสงค์ พระชนมายุยืนนาน”

เฉิงซื่ออวี้คิดว่า ไป่เหว่ยเหว่ยเป็นสตรีที่โง่และดาษดื่นมาก

เป็นผลให้คำพูดของนาง กระแทกเปิดเอาดวงหทัยของพระองค์ออกมา

ที่รวดร้าวอยู่ในดวงหทัยพระองค์ มิใช่เพราะทรงปกป้องส่วนเสี้ยวของแผ่นดินนี้มิได้

ทรงไม่คาดคิดว่านางจะเข้าใจพระองค์

และคำขอพรนั้นก็เพื่อพระองค์

เฉิงซื่ออวี้ แทบรับสั่งไม่ออกเมื่อตรัสถามนางถึงพรข้อที่สาม

เป็นครั้งแรก ที่ทรงรู้สึกว่าพระองค์อาจมิสามารถให้ได้ในสิ่งที่นางประสงค์



กระนั้นไป่เหว่ยเหว่ยไม่ต้องการให้ทรงเป็นกังวล เธอเอ่ยเบา ๆ “ พรที่สามนี้คืออะไร ข้ากลัวว่าข้าจะขอมากเกินไป อย่างนั้นเทพเจ้าจะไม่ฟัง ข้าเลยไม่พูดออกมา”

ติ๊ง ความชื่นชอบของตัวละครนำชายคือ 40 … 45.

ไป่เหว่ยเหว่ย รู้สึกว่าค่าความชื่นชอบที่ได้รับในครั้งนี้ ค่อยดูเหมือนที่ผู้ชายเขาเป็นกันหน่อย

เฉิงซื่ออวี้ทรงเงียบไปสองสามวินาทีก่อนที่จะรับสั่งว่า“ มานี่สิ”

ไป่เหว่ยเหว่ยไม่เข้าใจ แต่ก็ยังไปหาพระองค์

เฉิงซื่ออวี้ทรงย่อตัวลง “ ไต่ขึ้นบนหลังข้า”

ไป่เหว่ยเหว่ยประหลาดใจนิดๆ และตอบกลับอย่างลำบาก“ นี่ไม่เหมาะสม”

เฉิงซื่ออวี้พูดอย่างเยือกเย็น“ มีแต่เด็กๆรึที่ถุงน้ำดีใหญ่ (ผู้แปล-ถุงน้ำดี กล้าหาญ – ปรกติเด็กเล่นขี่หลังแปลว่าเด็กกล้าหาญ) ข้าไม่เห็นว่ามันไม่เหมาะสมตรงไหน นี่พระราชประสงค์อันศักดิ์สิทธิ์แท้ๆ ”

ไป่เหว่ยเหว่ยหลุดหัวเราะขำและพูดว่า“ ทราบแล้ว รับสนองพระราชประสงค์”

หลังจากเฉิงซื่ออวี้ทรงแบก ทรงออกแรงสะกิดอุ้งพระบาทเพียงครั้ง พุ่งแหวกอากาศโลดแล่นต่อเนื่องข้ามชายคาเรือน

ไป่เหว่ยเหว่ยตะลึงลาน คนเราเหาะจริงๆได้ด้วยเหรอ?

เธอบอกกับระบบอย่างตื่นเต้นว่า“ ฉันกำลังบิน ฉันกำลังบินขึ้นสูงแล้ว!”

ระบบตอบกลับอย่างเหยียดหยาม“ โคตรบ้านนอก”

เฉิงซื่ออวี้ทรงแสนดี ทรงแบกไป่เหว่ยเหว่ยขึ้นไปบนหลังคาสูงสุด

แทบเท้านั้น แสงไฟส่องประกายและลำสายทองก็ไหลหลั่ง ผู้คนมาแล้วก็ไป และเห็นได้ความเจริญรุ่งเรืองของโลกที่เจริญรุ่งเรืองนี้

ทรงรู้สึกถึงความนุ่มนวลของสตรีที่อยู่บนหลังพระองค์ หากไม่มีความคิดต่ำช้า มีเพียงความรู้สึกอันล้นพ้น

ไป่เหว่ยเหว่ยมองดูทุกสิ่งทุกอย่างใต้เท้าของเธอและอดไม่ได้ที่จะชื่นชม“ สวยงามมาก”

เฉิงซื่ออวี้ทรงอดไม่ได้ที่จะเผยรอยแย้มสรวลอันจริงใจ พระพักตร์เยือกเย็นนั้นมีแววดูอ่อนโยน

ดังที่ไป่เหว่ยเหว่ยชื่นชมพระองค์ ทรงยังมีร่องรอยเด็กน้อยอยู่ในดวงเนตรของพระองค์

นี่คือแผ่นดินของเรา(ผู้แปล-เจิ้น-คำที่ฮ๋องเต้ใช้เรียกตัวเอง)ดังพรที่เจ้าร้องขอ เมืองนี้เจริญรุ่งเรือง”

สตรีที่ข้างหลังไม่ตอบ แต่ทันใดนั้นเฉิงซื่ออวี้ก็ทรงรู้สึกต่อองค์เองว่า เศียรของพระองค์ตรงที่เรือนเกศานั้นมีรอยจูบประทับลงบางเบา

เมื่อทรงย้อนรำลึกเวลาในช่วงเยาว์วัยของพระองค์ ลำบากยากแค้น แต่มีเวลาที่ท่านแม่ได้อยู่ด้วยกันกับพระองค์

อวี้เอ๋อร์ แม้นมีสักคนในโลกนี้ตั้งใจที่จะจุมพิตศีรษะเจ้าและลูบไล้เรือนผมเจ้า เช่นนั้นคนผู้นี้คือผู้เดียวในโลกนี้ ผู้ถนอมเจ้าที่สุด ผู้ที่รักเจ้ามากที่สุด”

No comments:

Post a Comment

ไปเป็นแม่ศรีเรือนในโลกผู้ฝึกปราณ 02 หาที่ตาย

    พวกนี้ใคร? ทำไมต้องมาต่อยตีกันด้วยล่ะ? แล้วพี่รองและพี่น้องคนอื่น ๆ ล่ะ? แล้วนี่มันที่ไหนเนี่ย? หรงอี้เห็นภาพฉากทัศนวิสัยโดยรอบเปลี่ยนจา...