Quick Transmigration System: Male God, Come Here
ระบบย้อนชีพไวๆควิกๆ : ขั้นเทพก็มาดิเคิ๊บ
ตอนที่ 68 ฮ่องเต้ 26
ไป่เหว่ยเหว่ย: "004 ช่วยฉันด้วย!"
ระบบจะมีความสุขมากจนจะบินได้“ทำกัน ทำกัน ทำกัน
อา ผมสามารถปกป้องคุณในขณะที่คุณทำกัน เหอ เหอ เหอ.”
ไป่เหว่ยเหว่ย: จุดนี้ต้องเขวี้ยงหินใส่แล้ว
ใช่เหรอว่าเธอไม่ได้เกลียดกันกับระบบมาก่อน ตอนมีชีวิตอยู่ในอดีต?
เฉิงซื่ออวี้ทรงจุมพิตจูบร่องรอยจากการที่นางถูก
'หมิ่นเกียรติ' แต่ทรงดุดันนัก จนรู้สึกราวกับว่าทรงกำลังกัดทึ้งเนื้อของเธอ
ไป่เหว่ยเหว่ยตกใจ “ ฝ่าบาท ทรงกำลังทำอะไรอยู่”
เฉิงซื่ออวี้ทรงชะงักและเงยพักตร์
ดวงเนตรของเขาเต็มไปด้วยเปลวไฟลุกโชน ”
เรากำลังช่วยเจ้าลบล้างร่องรอยที่ผู้อื่นทิ้งไว้บนเรือนกายของเจ้า
ข้าจะทำให้เจ้าลืมชายอื่น ชายเดียวที่เจ้าจำได้นับแต่วันนี้คือข้า”
สัตว์ร้าย อา
พยายามเกลี้ยกล่อมเธอด้วยวิธีหรูเลิศ
เฉิงซื่ออวี้ทรงอุ้มนางขึ้นมาจากใต้น้ำ
ผมของนางยุ่งเหยิง แผ่พลิ้วลงมากระจัดกระจาย ขับผิวขาวราวหิมะของคอไป่เหว่ยเหว่ย นางสั่นสะท้าน
ทรงทอดพระเนตรเห็นภาพเช่นนี้และแสงในม่านตามืดลงด้วยแววตาอันหิวโหย
พระเพลาช่วงขายาวย่างก้าว และเสด็จออกจากอ่างอาบน้ำ
ที่ขอบของอ่าง
แขวนผ้าป่านมัสลินลงจากตั่งเตียงขนาดใหญ่
ทรงกด ไป่เหว่ยเหว่ย บนตั่งเตียง
พร้อมกับกล้ามเนื้อเปล่าบนวรกายของพระองค์ ทรงสิริโฉมสวยงามเฉิดฉัน เงาหม่นปรากฏทาบบนพระพักตร์งามหล่อเหลาของพระองค์
และปรากฎความปรารถนาที่จะกลืนกินอาหารอยู่เบื้องพระพักตร์
ไป่เหว่ยเหว่ยสั่นสะท้าน เป็นไปไม่ได้ที่เวลานี้จะสร้างเงื่อนไขข้อตกลง? อะไรนั่นที่อยู่ที่ข้างล่างนั่น?
เธอเอื้อมมือออกไปกันไว้ตามสัญชาตญาณ
แต่มือของเธอถูกจับแน่น เสียงของเฉิงซื่ออวี้พร่า “ อย่ากลัวเลย ข้าจะอ่อนโยน”
อ่อนโยน? กดตัวเธอลงจนเธอโดนบีบเป็นถั่วเขียวแห้ง
นี่นะอ่อนโยน
ไป่เหว่ยเหว่ยร้องขอความช่วยเหลือจากระบบ
เป็นการดิ้นเฮือกครั้งสุดท้าย “ คุณทำให้ผู้ชายคนนี้หมดสมรรถภาพได้หรือไม่”
คำตอบของระบบนั้นจริงจัง “ คุณแค่ต้องพลีกาย
โอเค?
ทุกอย่างเพื่อความชื่นชอบ”
ไป่เหว่ยเหว่ย: เพื่อประโยชน์ของความชื่นชอบ
คุณจะขายโฮสต์ของคุณเพื่อความก้าวหน้าในการงาน
ทำไมไม่มีทูตจากความยุติธรรมมาแก้ไขและล้างบางระบบนี้ที่หมดสิ้นความรู้สึกผิดชอบชั่วดี?
มันเป็นครั้งแรกที่เฉิงซื่ออวี้ทรงอยู่ใกล้ชิดร่างกายสตรี
ผิวขาวราวหิมะของนางนั้นบอบบางอย่างไม่น่าเชื่อ
หัตถ์หยาบกระด้างของพระองค์เต็มไปด้วยรอยด้านจากการถือกระบี่
ดังนั้นเมื่อใดก็ตามที่ทรงสัมผัสนาง เขาจะทิ้งรอยจาง ๆ ไว้
ผมยาวสีดำของนางไม่เป็นทรง
เปะป่ายลงบนร่างของนางอย่างสง่างาม และสีตัดชัดเจนระหว่างขาวดำดูงามแปลก
สะท้านผู้คนถึงแก่น
เมื่อนางเงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยดวงตางุนงงและชื้นฉ่ำ
สัญชาติญานทำให้พระองค์รู้สึกชาไล่ขึ้นมาตามแผ่นหลังของเขา
ทั้งพระวรกายราวตกอยู่ในห้วงเสียวสะท้านดุดันและรุนแรง
เฉิงซื่ออวี้ทรงกอดนาง ประคองกายอย่างอ่อนโยน
พระนาสิกของพระองค์ไล้ยังคอที่บอบบางของนาง“ เจ้าให้รสที่ดีเลิศล้ำ”
กลิ่นหอมเหมือนดอกไม้
บอบบางแต่เย้ายวนให้พระองค์คลั่งไคล้ไหลหลง
ประโยคนี้เป็นเหมือนการโจมตีที่ชวนหวั่น
ใบหน้าของไป่เหว่ยเหว่ยเผือดจนขาวโพลน
ทันใดนั้นนางก็สั่นระริกด้วยความหวั่นหวาดตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า
นางเอื้อมมือออกไปผลักไสเฉิงซื่ออวี้ออกห่างด้วยความกล้าทั้งหมดของนาง“
ข้าไม่ต้องการ อย่าเข้ามา อย่าเข้ามา! ข้าไม่ดี ไม่ดีเลย "
เฉิงซื่ออวี้ตกพระทัย และหยุดนิ่งลงพลัน
ทรงประจักษ์ชัดว่า ไป่เหว่ยเหว่ยหวาดกลัวจริงๆ
“ เหว่ยเหว่ย?” เขาพยายามเรียกหานางแล้วเรียกหานางอีกครั้ง“
เหว่ยเหว่ย, เหว่ยเหว่ย?”
แม้ว่าตอนนี้เธอจะเป็นกังวลมาก
แต่ชัดเจนเธอก็ไม่กลัว
ไป่เหว่ยเหว่ยดูราวจะเพิ่งตื่นขึ้นมา
นางมองไปที่เฉิงซื่ออวี้ “ฝ่าพระบาท”
ดวงตาของนางว่างเปล่าและหวาดกลัว
และน้ำตาไหลออกมาช้า ๆ ราวกับว่านางเพิ่งโดนตีแรงๆ “
สัตว์ร้ายตัวนั้นก็บอกว่าข้ารสชาติดี ข้าบอกว่าข้าไม่ดี
ข้าต้องการให้เขาปล่อยข้าไป แต่เขายังคงเข้ามาอีก เข้ามาอีก ... "
นางไม่ได้พูดต่อ
คล้ายกับกำลังคิดฉากที่ชวนขวัญผวา
No comments:
Post a Comment