Quick
Transmigration System: Male God, Come Here
ระบบย้อนชีพไวๆควิกๆ
: ขั้นเทพก็มาดิเคิ๊บ
ตอนที่
75 ฮ่องเต้ 33 - ฮ่องเต้ 34
ทันใดนั้นเฉิงซื่ออวี้ก็ปล่อยพรืดและทรงกลั้นหัวเราะไม่อยู่
เขาไม่ไหวแล้ว
นางได้เผชิญหน้ากับเฉินเฟยถอดเขี้ยววาดกรงเล็บ ด้วยภาวะที่ยากลำบาก
การเป็นว่า
เมื่อพระองค์เสด็จมาถึงที่นี่ นางเริ่มร้องไห้แล้วเริ่มฟ้องความผิดผู้อื่น
สตรีแบบนี้
เขารู้สึกว่าน่ารัก เขาเพียงแค่ไม่ได้เข้าช่วย
【 ติ๊ง
ความชื่นชอบของตัวละครนำชายเพิ่มขึ้นเป็น 87 ความชื่นชอบเพิ่มขึ้น 2 】
ระบบและ
ไป่เหว่ยเหว่ย:
"... "
สิ่งนี้สามารถเพิ่มความชื่นชอบก็ได้ด้วยเหรอ
เฉิงซื่ออวี้ทรงก้มเศียรลง
พระนลาฏแตะหน้าผากนางและทอดพระเนตรเข้าไปในดวงตาที่ใสสะอาด
“เจ้าจะให้ข้าประหลาดใจเจ้าได้อีกไปถึงไหน เหว่ยเหว่ย?”
คำพูดเหล่านี้อ่อนโยนและน่ารักโดยไม่มีร่องรอยของเหินห่าง
ไป่เหว่ยเหว่ยจ้องมองเขาและเงยหน้าขึ้นมองและจูบริมฝีปากของเขา
ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะประหลาดใจเปี่ยมสุขสันต์
จูบของนางรวมด้วยหรือไม่?
เฉิงซื่ออวี้ทรงตกตะลึงและหยุดหายใจจากนั้นก็เอื้อมมือจับศีรษะนางแล้วจูบนาง
จูบนี้ไม่มีความต้องการทางเพศ
ไม่มีความดุดัน เพียงผสานกันอย่างอ่อนโยน
ดวงอาทิตย์ขึ้นแล้ว
และทอดเงายืดยาวของพวกเขาเข้าด้วยกัน สวยงาม อ้อยอิ่ง
เรื่องของเฉินเฟยถูกตัดสิน
แต่เสนาบดีนอกวังยังไม่ได้รับการตัดสิน
มีรายงานว่า
ที่นอกวังเรื่องตระกูลเฉินกำลังเร่งสุมไฟ และไพร่ฟ้ารู้สึกหนักใจกังวล
และชื่อเสียงเรื่องมนต์เสน่ห์ของไป่เหว่ยเหว่ย
ซึ่งไม่รู้ว่ามันรั่วไหลออกไปได้อย่างไร แต่มันโด่งดังแพร่ขยายออกไปเรื่อย ๆ
เฉิงซื่ออวี้รู้ว่าพวกเขามาถึงเวลาที่สำคัญที่สุด
เพื่อจัดการศัตรูที่เหลืออยู่เขาจะต้องโหดเหี้ยมและไร้ปราณี
โดยไม่แสดงความเมตตาใด ๆ ต้องไม่ปล่อยให้พวกเขามีหนทางหลบหนี
เฉินเฟยถูกควบคุมตัวและเนื่องมาจากเพราะไป่เหว่ยเหว่ย
คาดว่าตระกูลซูจะไปที่วังหลวงโดยตรงเพื่อขอเข้าเฝ้า
ในเวลานั้นเขาสามารถหยิบยกตระกูลซูได้โดยตรงและตระกูลซูก็จะตาย
ส่วนที่เหลืออีกสองตระกูลนั้นจะจัดการได้ง่าย
แต่ถ้าสิ่งนี้ยังดำเนินต่อ
...
ก็ไม่สามารถเก็บไป่เหว่ยเหว่ยไว้
พระพักตร์ของเฉิงซื่ออวี้นั้นมืดมนและความวิตกกังวลของพระองค์ทำให้องค์เองทรมาน
“ซูเต๋อ ในการนี้ ถ้า ถ้า เราไม่ลงไป…”
ซูเต๋อคุกเข่าฮวบและแล้วเขาก็หลั่งน้ำตา
ตลอดเวลานี้ไม่ใช่ว่าเขาไม่เห็นความรู้สึกของฮ่องเต้ที่มีต่อไป่เจาหยี แต่น้ำหนักระหว่างความรู้สึกกับแผ่นดิน
หนึ่งอันใดที่เบาและอันใดที่หนัก อาาา
“ฝ่าพระบาท แผ่นดินนี้ยังต้องให้พระองค์ปกป้อง แต่ถ้าท่านต้องการที่จะปกป้องนาง
แผ่นดินนั้นจะอยู่ในสภาพที่ยุ่งเหยิง ทรงไม่สามารถปกป้องทั่วหล้าได้ตลอดชีวิต”
เฉิงซื่ออวี้ทรงทราบว่าเมื่อเดินไปตามหนทางนี้จนกระทั่งถึงขั้นตอนนี้
ถ้าถอยกลับทรงอาจถูกบังคับให้กลายเป็นฮ่องเต้หุ่นเชิด
หากท่านต่อสู้อย่างตรงไปตรงมาอาณาจักรอื่น
ๆ จะจับตามองทุกการเคลื่อนไหว
เขาไม่อาจเจ็บปวดได้
และเขาก็ไม่อาจเลิกราแม้ครึ่งก้าวเช่นกัน
การเสียสละไป่เหว่ยเหว่ย
เป็นหนทางเดียวที่เป็นไปได้จริง ๆ หรือ
เมื่อเฉิงซื่ออวี้เสด็จกลับไป
ทรงทอดพระเนตรเห็นไป่เหว่ยเหว่ยยืนอยู่หน้าประตูถัดจากนางกำนัลที่ถือโคมไฟ
นางสวมชุดสีม่วงอ่อน
และนางก็เหมือนนางเซียนในแสงจันทร์
เฉิงซื่ออวี้ทรงอดไม่ได้ที่จะลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว
แล้วเดินไปหาเมื่ออากาศเยือกเย็นลง “ เจ้าจะไม่รู้จักใส่เสื้อให้มากอีกหน่อยได้อย่างไรกัน?
ข้างนอกมันหนาวนะ"
ไป่เหว่ยเหว่ยยิ้ม“เฉินผู้นี้(ผู้แปล
ผู้น้อยเรียกตัวเองต่อฮ่องเต้)ได้ยินว่าวันนี้เป็นวันคล้ายวันเกิดวันพระราชสมภพของฝ่าบาท
ดังนั้นข้าจึงอยากถวายบะหมี่อายุยืน ข้ายังบอกให้พวกเขาส่งสุราและอยากถวายให้ในวันเกิดพระองค์”
วันเกิด? นานแค่ไหนแล้วที่เขาได้ฉลองวันเกิดของเขา?
ดูเหมือนว่าไม่มีใครจำวันเกิดของเขาได้
เฉิงซื่ออวี้อบอุ่นขึ้นและเขาดึงนางเข้ามากอด
ทอดพระเนตรเห็นโต๊ะพร้อมจานหลายจานและสุราอุ่น
ๆ และที่เด่นที่สุดคือชามบะหมี่อายุยืน
“เจ้าทำเองเหรอ?” เฉิงซื่ออวี้ถามเปี่ยมด้วยอารมณ์
ไป่เหว่ยเหว่ยพยักหน้า“ ข้าโยนลงไปในหม้อจากนั้นพ่อครัวหลวงก็ช่วยให้ข้าทำได้”
เฉิงซื่ออวี้: "... "
ประมาณว่าแป้งของบะหมี่นี้ถูกนวดโดยพ่อครัวหลวง
แม้แต่ซุปทำโดยพ่อครัวหลวง?
เฉิงซื่ออวี้ทรงประทับลงหยิบตะเกียบขึ้นมาเพื่อกัดคำหนึ่ง
ตักคำหนึ่งแล้วเห็นไป่เหว่ยเหว่ยมองเขาด้วยความคาดหวัง
มีแต่พระองค์ที่สามารถสิ้นไร้คุณธรรม
ถึงกับเปล่งสุรเสียงชื่นชม“ บะหมี่ที่เจ้าทำนั้นอร่อยมาก”
34
Quick
Transmigration System: Male God, Come Here
ระบบย้อนชีพไวๆควิกๆ
: ขั้นเทพก็มาดิเคิ๊บ
ตอนที่
76 ฮ่องเต้ 34
ไป่เหว่ยเหว่ย
รู้สึกว่าประโยคนี้เป็นสิ่งที่ดีที่สุดอันดับสองที่เธอเคยได้ยิน
คุณคิดว่าประโยคที่ดีที่สุดคืออะไร
แน่นอนว่ามันเป็นประโยคที่ว่า
“ เจ้าไม่มีใดอื่น แต่แค่เพียงใบหน้าที่สวยงาม เจ้ามีอะไรอื่นอีกบ้าง”
เมื่อเฉิงซื่ออวี้เสวยเสร็จเขาก็เทน้ำจันทน์ลงไป
ทรงรู้สึกรำคาญและกระหายใคร่จะระบายความวิตกกังวลนี้ซึ่งทรงไม่สามารถแก้ไขได้
ไป่เหว่ยเหว่ยเห็นพระองค์เสวยอย่างเร่งรีบ
เธอยื่นมือออกมาเพื่อหยุดพระองค์ “ทรงไม่ควรเสวยน้ำจันทน์มากนัก”
เฉิงซื่ออวี้ทรงชะงัก
และเงยหน้าขึ้นมอง ทอดพระเนตรเห็นสตรีที่อยู่ข้างหน้า ดวงตานั้นงามต้องแสงไฟ
และแย้มยิ้มเต็มที่
ไป่เหว่ยเหว่ยโค้งคำนับ
จับถ้วยในมือ เฉิงซื่ออวี้ทรงหวั่นไหวและหัตถ์ของพระองค์ตามการเคลื่อนไหวของนางเทสุราจากถ้วยเข้าไปในปากของนาง
ริมฝีปากแดงของนางขยับเล็กน้อยขณะที่นางกลืนสุราในปากนาง
เฉิงซื่ออวี้รู้สึกว่าเลือดของพระองค์กำลังเดือดตั้งแต่เศียรจรดพระบาท
นางจะมีเสน่ห์เพียงนี้ได้อย่างไร?
ไป่เหว่ยเหว่ยเทสุราอีกถ้วยหนึ่งแล้วส่งไปให้เฉิงซื่ออวี้
นางยังเทถ้วยสำหรับตัวนางเองจากนั้นก็คล้องเกี่ยวแขนกับพระองค์ “ มาดื่มกันเถอะ”
การแลกเปลี่ยนเครื่องดื่มเป็นเรื่องปกติที่คู่บ่าวสาวหมาด
ๆ จะแลกเปลี่ยนสุรา
สุรเสียงพระองค์ฟังแหบห้าว
“ เจ้ารู้ไหมว่านี่แปลว่าอะไร?”
การแลกเปลี่ยนสุราดื่มก็มีความหมายอีกอย่างหนึ่งคือการแต่งงาน
ไป่เหว่ยเหว่ยไม่ได้คิดมากนัก
เพียงแค่คิดว่าเฉิงซื่ออวี้รู้สึกหดหู่
ตอนนี้พวกเขาทั้งสองเป็นเหมือนตั๊กแตนบนเส้นเชือกเดียวกัน
หากเฉิงซื่ออวี้ร่วง คาดว่าเธอจะตกเป็นเป้าหมายของความไม่พอใจทั้งหมด และเธอต้องถูกทุบจนตาย
เฉิงซื่ออวี้เห็นการแสดงออกของนางและรู้ว่านางไม่ได้คิดอย่างลึกซึ้ง
บางทีนางเพียงแค่ทำให้พระองค์มีความสุข
พระองค์ขยับพระพาหาตามนางไปดื่มถ้วยที่ไขว้เปลี่ยน
แต่ดวงตาของพระองค์มองนางน่าหวั่น
ที่จริง
ไป่เหว่ยเหว่ยไม่ได้ดื่มจัด
แม้หลังจากดื่มสุราในปริมาณเล็กน้อยนี้เธอก็เริ่มรู้สึกมึนเมา
เธอไม่ได้เตรียมตัว
จึงเมาเพราะถูกเฉิงซื่ออวี้มอมไปหลายถ้วย
เมื่อสติของเธอเริ่มเลือนรางหายเธอบอกกับระบบด้วยความระมัดระวัง“
ถ้าฉันพูดอะไรที่ทำให้คะแนนความชื่นชอบลดลง อย่าลืมแจ้งให้ฉันทราบ”
ระบบ:“ สบายใจได้ไหม?
ฉันจะแจ้งให้คุณทราบ”
ไป่เหว่ยเหว่ยรู้สึกโล่งใจ
เธอพยายามอย่างหนักที่จะมองรูปลักษณ์ของเฉิงซื่ออวี้ให้ชัด และที่สุดก็ยอมแพ้
เฉิงซื่ออวี้เป็นคนแบบไหน? แค่ครั้งที่อยากรู้ก็ต้องกินเหล้าไปซะเยอะ
นางโซเซยืนขึ้นแล้วยิ้มให้พระองค์
“ฝ่าบาท ทำไมทรงขยับไปมาตลอดเลย”
เฉิงซื่ออวี้ประทับนั่งดูนาง“ เราไม่ได้ขยับ”
ไป่เหว่ยเหว่ยเลียริมฝีปากของนางและเอื้อมมือจับพระองค์อย่างมีอำนาจเหนือ“
ข้าบอกอย่าขยับ ท่านต้องไม่ขยับ”
เฉิงซื่ออวี้รู้อยู่เสมอว่าบุคลิกภาพนางนั้นมีมีอิสระมากขึ้นไปเรื่อย
ๆ แต่สภาพแวดล้อมในวังนั้นมีข้อจำกัดเป็นพิเศษ
ทำให้นางดูมีบุคลิกภาพแข็งกร้าวในช่วงเริ่มแรก
หลังจากเมาแล้ว
ดูเหมือนว่านางจะคืนสู่บุคลิกภาพที่บริสุทธิ์และไร้เดียงสาของนาง
เฉิงซื่ออวี้รับสั่งกระซิบ“ นิสัยอย่างเจ้าไม่เหมาะที่จะเข้าไปในวังหลวง
ข้าไม่รู้ว่าใครส่งเจ้ามา”
ไป่เหว่ยเหว่ยเหวี่ยงตัวแล้วนั่งลงบนพระเพลาของเฉิงซื่ออวี้ยื่นมือจับพระพักตร์ของพระองค์
“ ใครก็ตามที่ส่งข้ามา? แน่นอนว่าข้ามาที่นี่
แน่นอนว่า มาเพื่อท่าน”
อะไรคือองค์ชายของฮ่องเต้
? ไป่เหว่ยเหว่ยจำไม่ได้ เธอจำได้แค่ความรู้สึก
เฉิงซื่ออวี้นิ่งงัน
“ มาเพื่อข้า?”
ไป่เหว่ยเหว่ยยกมือขึ้นและไล้ตามรูปวงพักตร์พระองค์อย่างละเอียด“
ข้ายังจำได้ว่าตระกูลของเราอาศัยอยู่ในภูมิภาคที่อยู่ห่างไกลจากที่นี่
ซึ่งชนตระกูลต่างอาณาจักรปล้นชิงมาตลอดหลายปี มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ข้าออกไปและถูกปล้น
ข้าคิดว่าคงตายแน่แล้ว ในท้ายที่สุด
มีบุรุษหนุ่มน้อยสวมเกราะดำควบขี่อาชาสีดำปรากฏตัวและช่วยชีวิตข้าไว้”
.
.
No comments:
Post a Comment